เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หนีรอดยากแน่นอนกับผู้ต้องสงสัยคดีเงินทอนวัด เมื่อกองปราบประสานทุกด่านตม.ระวัง หญิง-ชาย 3 คนสนิทพระพรหมเมธีเผ่นออกนอกปท. เร่งล่าตัว 2 เจ้าคุณ ตรวจสอบเลขาฯวัดสามพระยาเอี่ยวออกเงินกู้หรือไม่ เตรียมเเจ้งข้อหาเพิ่ม “พระพรหมดิลก” ผิดกม.มาตรา 157 ที่กองปราบปราม

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามตัว พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร สองพระเถระผู้ใหญ่ที่ตกเป็นผู้ต้องหาฐานร่วมกันฟอกเงินในคดีเงินทอนวัดว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้เฝ้าระวังการเดินทางออกนอกประเทศของ ชายไทย 1 คน หญิงไทย 1 คน และหญิงสาวชาวลาวอีก 1 คน เนื่องจากเป็นศิษย์ที่มีความใกล้ชิดกับ พระพรหมเมธี โดยเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี

ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบพบว่าบุคคลทั้งสามได้หายไปจากที่พักและได้ขาดการติดต่อไปหลังจากที่ พระพรหมเมธี ได้หลบหนีการติดตามจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ในส่วนของ พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธี นั้น ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ สตม. ได้นำหมายจับเข้าระบบเฝ้าระวังของด่าน ตม. ทั่วประเทศไว้แล้ว ทั้งนี้หากพบบุคคลที่เผ้าระวังทั้ง 3 คนแม้ว่าจะยังไม่มีหมายจับก็ให้ประสานแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯได้ทันที

รายงานแจ้งอีกว่า สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับพระที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ฐานร่วมกันฟอกเงินแล้ว ยังได้สั่งการให้ขยายผลไปยังคดีอื่นๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าที่ดินของวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ โดยตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเงินที่ได้รับนั้นเข้าสู่บัญชีวัดหรือบัญชีส่วนตัวของพระแต่ละรูป และมีการออกใบเสร็จรับเงินอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นของวัดสามพระยาที่ค้นพบโฉนดที่ดินของฆารวาสญาติโยมจำนวนมากอยู่ในกุฏิของ พระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสามพระยา ว่าเกี่ยวข้องกับการรับจำนองโฉนดที่ดินหรือออกเงินกู้ด้วยหรือไม่

ขณะเดียวกันในส่วนของพนักงานสอบสวนกองปราบฯนั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มกับ พระพรหมดิลก ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญาฯ มาตรา 157 เพิ่มเติมด้วย เนื่องจากการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้นถือเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยตำแหน่ง