เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เตือนภัยพ่อแม่ทั้งหลายควรระวัง โรคร้ายแรงในหมู่เด็กกลับมาอีกแล้ว วันนี้ 13 พ.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และหลายสถานศึกษากำลังเข้าสู่ช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ พบว่า โรคที่มักเกิดกับเด็กในช่วงเปิดเทอม คือ โรคมือ เท้า ปาก โดยมักเกิดในสถานที่ที่มีเด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก จึงแนะนำให้ผู้ปกครอง ผู้เลี้ยงดูเด็กในศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล และสถานรับเลี้ยงเด็ก ตระหนักและระมัดระวังโรคที่เกิดการแพร่กระจายเชื้อสู่กันได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวถึงสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ว่า ข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–6 พฤษภาคม 2561 พบผู้ป่วยแล้ว 11,326 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยพบมากที่กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ จำนวน 9,678 ราย คิดเป็นร้อยละกว่า 85 ช่วงที่พบผู้ป่วยมากที่สุดของปี 2560 คือ ช่วงเปิดเทอมจนถึงหน้าฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม เพียง 4 เดือน มีผู้ป่วยมากถึง 38,304 ราย คิดเป็นร้อยละ 54 ของผู้ป่วยทั้งหมด

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าทางปากโดยตรง เชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน จึงพบได้มากในกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ โรคนี้อาจมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น ซึ่งส่วนใหญ่จะหายได้เองใน 7-10 วัน

“โรคนี้ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน จะรักษาตามอาการ หากเด็กมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบนำเด็กไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที เพราะอาจติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์รุนแรง เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้มากกว่าสายพันธุ์ปกติ กรมควบคุมโรคขอความร่วมมือศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล และสถานรับเลี้ยงเด็ก ตรวจคัดกรองเด็กเป็นประจำทุกวันในตอนเช้า หากพบเด็กป่วยให้แยกออกจากเด็กปกติ และแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน

ทั้งนี้ โรคติดต่อทางเดินหายใจยังคงเป็นปัญหาสำคัญ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ นักเรียนและเด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อจากการอยู่กับคนหมู่มาก โดยตั้งแต่ต้นปี 2561 ถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เป็นกลุ่มก้อนทั้งในโรงเรียน ค่ายทหารเรือนจำและวัดทั้งสิ้น 18 เหตุการณ์ จึงขอให้ผู้ปกครองและครูสังเกตอาการเด็กอย่างใกลชิด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว