เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรณี “น้องขวัญ” (นามสมมติ) ลูกสาววัย 3 ขวบ 9 เดือน ที่นำไปจ้างคนรู้จักเลี้ยงได้ประมาณ 2 เดือน พบว่าแขนหัก ตามร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้าย มีแผลจากถูกน้ำร้อนลวก และถูกล่วงละเมิดทางเพศ เบื้องต้นได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เกรงคดีจะไม่มีความคืบหน้า ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย
นางสาวเอ เล่าว่า ตนเองและสามีทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่ง มีลูกทั้งหมด 4 คน น้องขวัญเป็นลูกคนสุดท้อง ก่อนหน้านี้ได้นำไปจ้างเลี้ยงประจำกินนอนที่บ้านคนรู้จักซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของตนไปประมาณ 2 กิโลเมตร เพราะเห็นว่าที่บ้านดังกล่าวมีเด็กซึ่งเป็นลูกหลานอายุไล่เลี่ยกัน กระทั่งวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปรับลูกเพื่อที่จะพามานอนด้วย ก็พบว่าน้องขวัญแขนขาหักห้อยทั้งสองข้างร้องไห้โยเย ตนจึงสอบถามกับคนเลี้ยงก็บอกว่าเด็กซน และได้รับบาดเจ็บตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. จากนั้นตนจึงได้นำลูกส่งโรงพยาบาลบ้านหมอ และส่งตัวมาที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท จ.สระบุรี จนเห็นร่องรอยบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ลำคอ และตามร่างกาย ซึ่งผลการตรวจของแพทย์ระบุว่า ลูกสาวของตนเองมีร่องรอยบาดแผลที่อวัยวะเพศ และร่องรอยฉีกขาดจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แขนหัก 2 ข้าง , ที่หลังมีร่องรอยถูกกัด , ใบหน้าและขามีร่องรอยพุพองคล้ายถูกน้ำร้อนลวก และที่ลำคอพบถูกของมีคมบาด จากนั้นทางโรงพยาบาลพระพุทธบาทจึงได้ส่งตัวลูกสาวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสระบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด โดยได้นอนรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. ถึง 17 เม.ย. ทุกวันนี้น้องขวัญยังอยู่ในอาการหวาดผวา
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ สภ.บ้านหมอ เพื่อให้เร่งทำการสอบสหวิชาชีพกับเด็ก และให้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระบุรีช่วยติดตามเรื่องให้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากการกระทำของพี่เลี้ยงที่ดูแลเด็กลงมือกระทำต่อเด็กอย่างรุนแรง และจากการตรวจร่างกายก็พบว่าเด็กถูกล่วงละเมิด คาดว่าผู้กระทำอาจเป็นคนใกล้ชิดที่อยู่ภายในบ้านพักของพี่เลี้ยงคนดังกล่าว ซึ่งจะได้ขอให้ทางพนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการติดตามตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน และดำเนินการเอาผิดตามกฏหมายต่อไป