เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

เกิดพายุโซนร้อนพัดถล่มในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ร่องกลางถนนสายเอเซีย ขาขึ้นช่วงหลักกิโลเมตรที่ 25 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ล้มทับรถเบนซ์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 7กข-356 กทม. จนกระจกหน้าแตก หลังคาพังยับเยิน และรถกระบะนิสสัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ถง-5087 กทม. สภาพกระจกหน้าแตก ผู้ขับขี่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถาม นายประพัฒน์ สุนันตา อายุ 22 ปี คนขับรถเบนซ์ กล่าวว่า ตนเดินทางมาจาก กทม. เพื่อกลับบ้านพักที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีฝนตกและลมกรรโชกแรงเห็นต้นไม้โยกไปมากำลังจะล้มจึงรีบเหยียบคันเร่งเพื่อให้พ้น แต่ไม่ทันต้นไม้ล้มทับที่รถ โชคดีที่ขับผ่านมาไม่ถูกทับคาไว้จึงไม่ได้รับบาดเจ็บมาก

นอกจากนี้ยังพบว่าในช่องทางคู่ขนานขาเข้า กทม. เสาไฟฟ้าแรงสูงแฃะแรงต่ำถูกลมพายุพัดจนทำให้โค่นล้มกว่า 30 ต้น กีดขวางบนถนน ส่งผลทำให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.นครหลวง ดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเร่งสำรวจความเสียหาย ดำเนินการซ่อมแซมจ่ายกระแสไฟฟ้าชั่วคราว เนื่องจากมีโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช และบ้านเรือนจำนวนมาก

ด้าน นายกัมพล ดำเนินศิลป์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการสำรวจของทีมเจ้าหน้าที่พบว่าเสาระบบ 115 เควี ล้ม14 ต้นและเสาระบบ 22 เควี 21 ต้น รวมทั้งหมด 35 ต้น คงเหลือผู้ใช้ไฟระบบ 22 เควี ไฟยังดับอยู่บางส่วน อยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนหม้อแปลงที่ได้รับผลกระทบไฟยังดับอยู่บางส่วน และจะเร่งแก้ไขระบบไฟฟ้าพร้อมทั้งจ่ายไฟให้กับบ้านเรือนประชาชนให้เสร็จภายในค่ำนี้ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากมีลมพายุหมุนและเกิดฝนตกอย่างแรงจนทำให้เสาไฟฟ้าล้มและค่าเสียหายยังอยู่ระหว่างการประเมิน

ภาพข้อมูจาก:ข่าวสด