เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ดูเหมือนว่าเรื่องของความเชื่อประเภทมนต์ดำ ไสยศาสตร์จะกลายเป็นจุดขายในมุมมืดอีกทางหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชียโดยเฉพาะจีน มาเลเซีย สิงคโปร์หรือแม้แต่ไต้หวัน จากภาพฮือฮาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามีโลกออนไลน์หลายสำนักนำเสนอาภาพหญิงสาวแต่งตัวหมิ่นเหม่นั่งถ่างแข้งถ่างขาไม่สำรวมให้หมอผีบริกรรมคาถาเป่ามนต์ให้


มีข้อมูลน่าสนใจจากวงการทัวร์จีนมารายงานให้ทราบว่าความนิยมของนักท่องเที่ยวเอเชียโดยเฉพาะชาวจีนนั้นมีหลายหลายรสนิยมในการท่องเที่ยวไทย มีทั้งนิยมดูโชว์สาวประเภทสอง ชอบธรรมชาติภูเขา ท้องทะเล เที่ยววัด บูชาวัตถุมงคล ชอบเดินช็อปปิ้งเยาวราช ชอบอาหารไทย

ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวชายอาจมีเรื่องทางเพศมาเกี่ยวข้องด้วยเริ่มจากการดูโชว์ลามก เที่ยวสถานบริการต่างๆ แต่ที่จะพูดถึงก็คือกลุ่มที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ อภินิหาริย์หรือมนต์ดำต่างๆ
นักท่องเที่ยวที่มีรสนิยมในทางนี้มีทั้งหญิง และชาย ส่วนใหญ่มีข้อมูลที่รับรู้มาจากปากต่อปาก จากไกด์หรือจากการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆของโลกออนไลน์โดยที่หลักใหญ่ต้องการพึ่งไสยศาสตร์เพื่อการค้าขาย และเป็นเสน่ห์แก่เพศตรงข้าม บางคนเดินทางมาโดยตรงเพื่อสมัครเป็นศิษย์ให้คนไทยสอนการสวดมนต์ การสักยันต์ การบริกรรมคาถาต่างๆในรูปแบบของฤาษี


กลุ่มคนไทยที่ทำมาหากินกับนักท่องเที่ยวจีนแบบนี้ร้อยทั้งร้อยคือการต้มตุ๋น หากินกับความเชื่อแต่เป็นเรื่องสมัครใจของทั้งสองฝ่ายอีกทั้งยังไม่มีการร้องเรียนเข้าไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ธุรกิจหากินกับความเชื่อจึงเติบใหญ่อย่างรวดเร็ว มีการเปิดเพจฯพ่อมดหมอผีกันหลายสำนัก บางแห่งเผื่อเหลือเผื่อขาดอาจเข้าข่ายผิดกฏหมายมีต้นตออยู่ที่ต่างประเทศ


และภาพบางส่วนที่นำเสนอนั้นอาจต้องตะลึงถึงความกล้า ความแรงของลูกค้าที่ยอมทำทุกอย่างด้วยความเชื่อว่าเมื่อผ่านพิธีกรรมไปแล้วจะพบกับความรุ่งโรจน์ในชีวิต ประสบความสำเร็จในการค้า เงินทองไหลมาเทมา
ซึ่งกรรมพิธีต่างๆมีทั้งลงนะหน้าทอง ลงเสน่ห์เงินทองไหลมาเทมา (นั่งถ่างขาเป็นตัว M หรือ MONEY ) การสักยันต์ในรูปแบบต่างๆรวมทั้งรูปนางพญาจิ้งจอก 9 หางซึ่งถือว่าเป็นสดยอดของความเสน่หาความลุ่มหลง โชคลาภ หรือที่หนักข้อผิดกฏหมายคือขบวนการลักลอบซื้อขายกุมารทองซึ่งเคยตกเป็นข่าวเกรียวกราวมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนที่ จว.เชียงใหม่ ก็ยังเชื่อว่ามีการลักลอบซื้อขายกันลับๆ