เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นายประสพ อินทร์พันธ์ ผอ.โรงเรียนบ้านกุดน้อย ต.กุดน้อย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา แจ้งความต่อ พ.ต.ต.กิตติพส ชำนาญเท สว.(สอบสวน) สภ.สีคิ้ว หลังทราบเรื่อง น.ส.สุกัญญา รักษาสัตย์ อายุ 29 ปี ครูสาวสวยในโรงเรียน ซึ่งทำหน้าที่ธุรการว่า ระหว่างขี่จยย.จาก รร.บ้านกุดน้อย จะไป รร.บ้านหัวสระ เพื่อไปเซ็นชื่อในเอกสารแบบประเมินผล ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว ขณะที่รถวิ่งอยู่ถูกคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสูงใหญ่ที่รอบคอมีรอยสักยันต์ ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีเขียว ขี่รถ จยย.ยามาฮ่า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาประกบ ก่อนจะใช้เท้าถีบจยย.ของ น.ส.สุกัญญา จนล้มลง แล้วใช้อาวุธมใดจี้เข้าไปในป่าข้างทาง ระหว่างที่คนร้ายใช้กำลังถอดเสื้อผ้าเหยื่อนั้น ครูสาวได้แข็งใจร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจนชาวบ้านที่ตัดฟืนอยู่ใกล้กันวิ่งมาดู เมื่อคนร้ายมองเห็นชาวบ้านจะเข้ามาช่วยจึงกระหน่ำแทงน.ส.สุกัญญา ที่ราวนม และแผ่นหลังอีก 3 แผล ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายของ น.ส.สุกัญญาซึ่งมีทรัพย์สินภายใหลบหนีไป
หลังทราบเรื่อง พ.ต.ต.กิตติพส พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงวุฒิ ไสยบุญ ผกก.สภ.สีคิ้ว นำกำลังตำรวจรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างของ น.ส.สุกัญญา นอนฟุบหายใจรวยรินอยู่บนพื้นดินในป่าดังกล่าว โดยมีชายชราชาวบ้านที่มาขัดจังหวะคนร้ายนั่งเฝ้ารอเจ้าหน้าที่อยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งคนเจ็บส่ง รพ.สีคิ้ว และแพทย์เห็นว่าอาการสาหัสได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา
นายประสพ เผยว่า ครูสุกัญญา หรือ ครูนิด เป็นชาว จ.สุรินทร์ เป็นคนที่ทำงานดีรับผิดชอบต่อหน้าที่ และเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาสะสวยเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ที่พบเห็น ก่อนเกิดเหตุได้มาขออนุญาตตนเดินทางไปเซ็นชื่อในเอกสารแบบประเมินผลการปฏิบัติงานที่ รร.บ้านหัวสระ ต.กุดน้อย ระยะทางห่างกันประมาณ 3 กม. จนเกิดเหตุร้าย ซึ่งตนจะเสนอเรื่องไปที่สำนักงานการศึกษาเขตเพื่อช่วยเหลือต่อไป
ด้าน พ.ต.ต.กิติพศ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บยังให้การไม่ได้จึงยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่คาดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะเป็นคนคนเดียวกับคนที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ อ.สูงเนิน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะมีพฤติกรรมคล้ายกันและเชื่อว่าคนร้ายคงแอบชอบครูสาวจึงสะกดรอยตามมาตั้งแต่ขี่รถออกจากโรงเรียน เมื่อมาถึงที่เปลี่ยวจึงก่อเหตุ จึงขอเตือนสาวๆ ว่า อย่าไปไหนมาไหนคนเดียวในที่เปลี่ยว ส่วนคนร้ายรายนี้จะต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไป
ที่มา – เดลินิวส์