เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากคดี ‘ขโมยลอตเตอรี่รางวัลที่ 1’ นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าพบ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ ภายหลังเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ว่า ตนเองถูกรางวัลที่ 1 งวดที่ 16 สิงหาคม 2560 หมายเลข 715431 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท แต่สลากฯ หายไป และได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 20 ส.ค.60 ต่อมาทราบว่ามีคนนำลอตเตอรี่ดังกล่าวไปขึ้นเงินแล้วเมื่อวันที่ 23-24 ส.ค.ที่ผ่านมา

จากนั้นได้มีพ่อค้าเร่ที่เป็นคนขายสลากฯ หมายเลขดังกล่าวให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ ขณะพาลูกไปหาหมอที่ รพ.นางรอง ชื่อนายสุวัช จันทร์พลาง อายุ 42 ปี ชาวบ้านปะทัดบุ ต.ปะทัดบุ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ออกมายืนยันว่าลอตเตอรี่งวด 16 ส.ค.ที่ตนขายไว้ ถูกรางวัลที่ 1 จริง เพราะตนเองยังเก็บต้นขั้วไว้ และพี่ชายที่มาซื้อกับตนก็ยังถูกรางวัลข้างเคียงอีกด้วย โดยนายสุวัชยืนยันว่าจำได้ทั้งคนซื้อและเลขสลากฯ ที่ถูกรางวัล พร้อมไปเป็นพยานให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ เพราะสงสารคนดวงดีที่ถูกรางวัลแล้วกลับไม่ได้เงิน

 ต่อมา พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผกก.สภ.นางรอง ได้เปิดเผยว่า กำลังเร่งดำเนินการคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ของนายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง ที่หายไปจากบ้าน โดยตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ซื้อลอตเตอรี่ว่า ซื้อมาจากที่ไหน เพราะยี่ปั๊วที่จำหน่ายลอตเตอรี่ชุดนี้จะมีต้นขั้วอยู่ ซึ่งเบื้องต้นจากข้อมูลที่ได้รับมายืนยันว่าเกิดเหตุการณ์นี้จริง จึงได้ตรวจสอบว่าใครนำไปขึ้นรางวัล เพราะทางกองสลากฯ จะมีรายชื่อผู้รับเงิน ซึ่งตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร

“พบว่าเงินจำนวน 12 ล้านบาท ยังอยู่ครบในบัญชีธนาคารของผู้ไปขึ้นเงิน จึงขอความร่วมมือว่าอย่าถอนเงินออกมา รอการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนว่าลอตเตอรี่ที่นำไปขึ้นเงินได้มาจากไหน ขอให้ผู้เสียหายสบายใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการให้อย่างเต็มที่” พ.ต.อ.สมภพ กล่าว

ด้านนายพันธุ์ศักดิ์ เผยว่า เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตนมีความหวังว่าจะได้เงินคืน ยิ่งรู้ว่าเงินยังอยู่ครบทั้ง 12 ล้าน ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้รอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ผู้เอาเงินไปนำมาคืนตนเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่นำสลากฯ หมายเลขที่ถูกรางวัลที่ 1 ที่เชื่อว่าเป็นของนายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง ไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ เป็นผู้หญิงกับผู้ชาย คาดว่าเป็นสามีภรรยา แต่ไปคนละวัน คือวันที่ 23 ส.ค.60 ขึ้นสลากฯ 1 ใบ เป็นเงิน 6 ล้านบาท จากนั้นวันถัดมา คือวันที่ 24 ส.ค.60 ไปขึ้นอีก 1 ใบ 6 ล้านบาท รวมเป็น 12 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบล่าสุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เงินจำนวนดังกล่าวยังอยู่ครบ ยังไม่ถูกถอนออกจากบัญชีแต่อย่างใด.

ที่มา – ไทยรัฐ