เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ประเด็นสวนผลไม้ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกลูกค้ายื่นเรื่องร้องเรียน หลังซื้อบัตรกินบุฟเฟ่ต์ผลไม้ แต่ไม่ได้กิน และเมื่อทวงเงินคืนที่จ่ายไปกลับไม่ได้คืน ก่อนที่ในเวลาต่อมาทางเพจของสวนได้ประกาศแจ้งข่าวว่าสวนเจ๊ง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 2 ล้านบาท

ข่าวอื่นๆเพิ่มเติม

โดยเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 เปิดเผยเรื่องราวว่า มีผู้เสียหายจากเรื่องนี้รวมตัวยื่นร้องเรียนต่อสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังทางสวนผลไม้ สวนปัณฑริดา บุฟเฟต์ผลไม้-เมืองคอน ประกาศว่าสวนเจ๊ง หลังจากเปิดขายบัตรโปรฯ กินบุฟเฟ่ต์ผลไม้ในสวน โดยอ้างว่าสวนได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ทำให้สวนขาดรายได้ เพราะไม่สามารถเปิดให้บริการสวนได้

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความประหลาดใจแก่ผู้เสียหายอย่างมาก โดยตั้งข้อสังเกตว่าสวนจะเจ๊งได้อย่างไร ในเมื่อเอากระดาษมาแลกเงิน สวนไม่มีการลงทุนใด ๆ ในปีนี้ เพราะสวนไม่ได้เปิด ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าจ้างพนักงาน ค่าทุเรียนที่จะเอามาใช้ในบุฟเฟ่ต์ หรือค่าอาหารอื่น ๆ เงินที่โอนไปจองกระดาษเปล่า ๆ หายไปไหน หรือเจ้าของสวนเอาไปใช้จ่ายส่วนตัวหรือใช้หนี้ส่วนตัวหมดแล้วหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผู้เสียหายทั้งลูกค้าที่ซื้อบัตร ตัวแทนจำหน่ายบัตร ตัวแทนจำหน่ายทุเรียนแกะเนื้อ อดีตพนักงาน และคู่ค้าของสวนที่สวนไปรับทุเรียนมาเพื่อจำหน่ายแต่ถูกเลื่อนชำระเงิน ได้รวมตัวยื่นร้องเรียนต่อสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะได้รับความเดือดร้อนจากการรอเงินคืน ยเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท  อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยเบื้องต้นที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลานสกา แต่เจ้าของสวน ไม่มา แต่ส่งตัวแทนเป็นแม่และน้องสาวมา ซึ่งทั้งคู่ก็ปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นหรือเกี่ยวข้องกับธุกิจที่เจ้าของสวนทำแต่อย่างใด

เจ้าของสวนชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่มีเงินคืนลูกค้า

โดย ผึ้ง เจ้าของสวน เปิดเผยว่า การประกาศเจ๊งหรือปิดชั่วคราวนั้นประกาศมานานแล้ว ซึ่งตอนนี้ไม่ได้หนีไปไหน แต่มาอยู่ที่นนทบุรี มาอยู่บ้านญาติเพื่อมาทำงานหาเงินไปใช้หนีคืนผู้เสียหาย เบื้องต้นคืนไปแล้วประมาณ 1 แสนบาท    สำหรับการขายบัตรโปรฯ บุฟเฟ่ต์ขายตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ปีนี้สวนเปิดไม่ได้เพราะโควิด 19 ซึ่งเคยพยายามติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิด พอสถานการณ์โควิดเริ่มรุนแรงขึ้นจึงตัดสินใจไม่เปิดสวนแล้ว โดยจะปรับมาขายทุเรียนเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายคืนลูกค้าที่ซื้อบัตรไป

สำหรับเงินที่ได้จากขายบัตรประมาณ 2 ล้าน เอาไปใช้จ่าย 3 ส่วน คือ ส่วนแรกใช้เป็นค่าปรับปรุงสถานที่ประมาณ 2-3 แสนบาท เพื่อที่จะเปิดสวนตามแพลน แต่ว่าไม่ได้เปิด ส่วนที่ 2 เอาไปเหมาซื้อทุเรียนที่ทำเป็นปกติอยู่แล้ว 7 สวน ใช้เงินประมาณ 1.4 – 1.5 ล้านบาท และส่วนที่ 3 ใช้เงินประมาณ 3 – 4 แสน เอาไปลงทุนทำทุเรียนแกะเนื้อขาย หลังจากที่รู้แน่ ๆ แล้วว่าสวนเปิดไม่ได้ ซึ่งส่วนที่ 3 นี้ที่ลงทุนไปขาดทุนไปเป็นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษทุกคนทั้งลูกค้า ตัวแทนทุกคน และเจ้าของสวนทุเรียน เพราะเป็นความผิดของตนเองที่บริหารผิดพลาด ยืนยันว่าจะหาเงินมาคืนทั้งหมดโดยเร็วที่สุดภายในเดือนธันวาคมนี้ และตอนนี้ก็พยายามทำงานทุกอย่าง งานอะไรที่ทำแล้วได้เงินก็ทำหมด