เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากวันก่อนที่มีการพูดถึงนโยบาย ที่นายธิติวุฒิ จันคูหา รองประธานสภาเด็กและเยาวชน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เสนอนโยบายติดตั้งตู้ขายถุงยางอนามัยในโรงเรียน โดยกล่าวว่า นโยบายเสนอโดยวัยรุ่นและเยาวชนคิดว่าเป็นความงดงามที่สุด วัยเดียวกันเขาย่อมเข้าใจคนในวัยเดียวกัน รัฐบาลควรจะตั้งงบประมาณให้มีการใช้ถุงยางอนามัย 100% ไม่ต้องให้โรงเรียนไปหา หรือให้เด็กไปซื้อ เพราะยังมีนักเรียนยากจนในต่างจังหวัด

ทำให้เห็นว่าปัญหาของเด็กไทยขึ้นชื่อว่ามีอัตราการตั้งท้องในวัยเรียนสูงที่สุดในเอเชีย และวิธีการแก้ปัญหาที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันอยู่บ่อยๆคงเป็นเรื่อง “การติดตั้งตู้ถุงยางอนามัยในโรงเรียน” แน่นอนว่าต้องมีทั้งฝ่ายที่คิดว่า การติดตั้งตู้ถุงยางอนามัยในโรงเรียนจะป้องกันการท้องทั้งที่ยังไม่พร้อมและช่วยป้องกันการติดโรคจากเพศสัมพันธ์ได้ ในเมื่อไม่สามารถห้ามอารมณ์ ความอยากรู้อยากเห็นของวัยรุ่นได้ ก็ต้องหาทางป้องกันให้เขา เพื่อไม่ให้ท้องในวัยเรียนทั้งที่ยังเอาตัวเองไม่รอด และอาจทำให้เด็กที่เกิดในสภาวะที่พ่อแม่ก็ยังไม่พร้อมที่จะดูแลกลายเป็นปัญหาของสังคมต่อไปอีก

อดีต ส.ว.นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ที่ชอบวิจารณ์และเสนอจัดระเบียบสังคม ยังออกมาสนับสนุนแนวคิด การติดตั้งตู้ถุงยางอนามัยในโรงเรียน เพราะคิดว่าเด็กสมัยนี้รู้เรื่องหมดแล้ว เพียงแต่จะหาวิธีปกป้องแบบไหนไม่ให้เป็นปัญหาขึ้นมา

แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกเสียงที่บอกว่า การที่เด็กสามารถหาซื้อถุงยางอนามัยได้อย่างง่ายดายจะไปเป็นการกระตุ้นให้เด็กอยากมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นหรือเปล่า เมื่อมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่ซื้อก็อาจจะนำไปบอกต่อกับเพื่อนๆ ทำให้เด็กกลุ่มที่ไม่ได้มีความคิดเรื่องนี้ก็อาจจะอยากลองด้วยหรือเปล่า หรือจะทำให้เด็กเอาเวลาที่ควรจะตั้งใจกับการเรียนหนังสือไปหมกหมุ่นในเรื่องเพศแทน

แล้วคุณคิดว่า “การติดตั้งตู้ขายถุงยางอนามัยในโรงเรียน” จะเป็นการช่วยลดปัญหาการท้องในวัยเรียน หรือ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น?