เป็นอีกเรื่องราวที่เป็นปัญหามาตั้งแต่มี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ จนทางฝั่งผู้คนออกมาโต้แย้งหลายทีว่าคุ้มครองแต่สัตว์แล้วคนที่โดนสัตว์ทำร้ายใครจะคุ้มครอง ล่าสุดวันนี้ 28 มี.ค.61 คณะกรรมการติดตามกลไกและพิจารณาการปกป้องคุ้มครองสัตว์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดสัมมนาวิชาการเรื่องร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ฉบับที่ พ.ศ….เพื่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมอภิปราย และระดมความคิดเห็นแนวทางและผลกระทบการยกร่างกฎหมาย การขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีตัวแทนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมปศุสัตว์ นายกเทศมนตรีนครรังสิต อดีตเลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย และอดีตรองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ และประชาชนที่สนใจร่วมรับฟัง
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นการแก้ไขพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ. ศ. 2557 หมวด 3 ว่าด้วยการจัดสวัสดิภาพสัตว์ หรือ การขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง โดยเพิ่มมาตรา 22/1 ที่กำหนดให้อปท .ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดให้เจ้าของสัตว์ นำสัตว์เลี้ยงมาขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง และกำหนดโทษสำหรับเจ้าของสัตว์ที่ฝ่าฝืนไม่นำสัตว์เลี้ยงตามข้อบัญญัติท้องถิ่นที่ออกตามบทบัญญัติมาตรา 22/1 มาขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง
นายสุวิชชา เพ็งไพบูลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมายและระเบียบท้องถิ่น 1 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้ความเห็นว่า จากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนตัวเห็นด้วย แต่มองว่าการออกข้อบัญญัติท้องถิ่น จะต้องคํานึงถึงประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในหลักเกณฑ์วิธีการ เพื่อให้มีความชัดเจนในการนำไปปฏิบัติขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
ขณะที่ความเห็นจากฝ่ายประชาชนที่ร่วมการสัมมนา มองว่าการขึ้นทะเบียนสุนัขอาจเป็นการเพิ่มภาระให้กับเจ้าของ รวมถึงนิยามคำว่าเจ้าของขณะนี้ยังเป็นปัญหา เพราะไม่ครอบคลุมกลุ่มคนรักสุนัขที่ให้อาหารสุนัขจรจัด