เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 22 ก.ย.64 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำคณะ พร้อม นายอนามัย และ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ เดินทางมาที่อัยการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อเรียกร้องเงินสินไหมทดแทน 10.3 ล้านบาท พร้อมนำทนายมาลงชื่อเพิ่มในคดีน้องชมพู่อีก 1 คน คาดพยานประมาณ 60 ปาก จะมัดตัวผู้ต้องหาได้

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันที่ 22 พ.ย. เราจะขึ้นมาอีกรอบ เนื่องจากเป็นวันนัดพร้อม ซึ่งในวันนั้นก็จะทราบว่าพยานทนายทั้ง 2 ฝ่ายนั้นมีกี่ปาก แต่ในส่วนของเรานั้นคาดการว่าจะมีพยานประมาณ 60 ปาก ในส่วนของจำเลยเรายังไม่ทราบ อย่างที่เคยบอกไว้ก่อนนี้ กับครอบครัวน้องชมพู่เราเดินเคียงข้างกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว และเราก็มั่นใจในพยานหลักฐานของเราที่เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างแน่นอน และเราก็มั่นใจมาโดยตลอด เราเชื่อว่าใครทำกรรมผู้นั้นก็ต้องรับกรรม เราเชื่อว่า ตอนนี้สิ่งที่เขาทำลงไป ผู้กระทำผิดเขาไม่มีความสุขและนอนไม่หลับหรอก ตนก็ยืนยันว่าเขาจะนอนไม่หลับอีกนานจนกว่าคดีจะพิพากษาออกมา

ตนเชื่อมั่นเกี่ยวกับในทางพยานหลักฐานทางคดีน้องชมพู่ที่เราติดตามรวบรวมอยู่หลายเดือน ร่วมกับพนักงานอัยการพยานทุกอย่างจะสอดรับกัน และทำให้การพิจารณาคดีน้องชมพู่นั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเราก็มั่นใจทีมทนายของเราที่ยังไม่ได้เปิดตัวอีก 2 คน เพื่อเก็บไว้ในชั้นสืบอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ก็ได้นำทนายมาจากกรุงเทพเพื่อลงนามมีส่วนร่วมทางคดี เพิ่มอีก 1 ท่าน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“วันนี้ได้มายื่นมีส่วนร่วมทางคดี พร้อมเรียกค่าเสียหายทดแทนเป็นเงิน 10.3 ล้านบาท และได้ขึ้นไปพบปะพูดคุยกับทางอัยการในการเป็นโจทก์ร่วม ในการสนับสนุนข้อมูลด้านต่างๆ กับทางอัยการ สำหรับเงินที่เราเรียก 10.3 ล้านบาทนั้น เป็นเรื่องทางคดีก็เป็นกฎหมายที่เราสามารถเรียกร้องทางคดีอาญาได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าวางศาล 2 เปอร์เซ็น ถ้าเราไปฟ้องแพ่งเราจะต้องเสียค่าวางศาล 2 เปอร์เซ็น และก็ต้องแยกคดีทางฟ้องแพ่งต่างหาก แต่นี่เราฟ้องในคดีอาญาเหมือนกับอาญาเกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่ง ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นเงินค่าสินไหมทดแทนในการเสียชีวิตของน้องชมพู่” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า เงินค่าสินไหมทดแทนจำนวน 10.3 ล้านบาทที่เรียกไปนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลที่จะนำสืบ เมื่อถึงเวลานำสืบเราจะต้องชี้ให้เห็นว่า 10.3 ล้านบาท ตัวเลขนี้มาจากตรงไหน ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่ทีมทนายเราจะต้องไปตอบในศาล เพราะทนายจำเลยก็จะต้องถามค้านเราอยู่แล้ว ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเราเรียกจากผู้ต้องหา แต่เมื่อถึงเวลาขึ้นศาลทางฝั่งทนายจำเลย เขาก็จะต้องถามค้านว่าตัวเลข 10.3 ล้านบาท ที่เราเรียกไปนั้นเป็นตัวเลขมาจากที่ไหน

นางสาวิตรี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจมากที่มีทนายอัจฉริยะและกลุ่มทนายมายืนเคียงข้างช่วยดูแลคดีให้ โดยในวันนี้ทีมทนายได้เรียกเงินสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวเรา 10.3 ล้านบาท ที่จริงพวกเราก็แค่ตาสีตาสาไม่มีความรู้อะไรในทางคดีความ เราก็ต้องการอยากจะให้ใครซักคนมาช่วยเรา ช่วยนำพาเรา ว่าเราต้องทำอะไร ควรทำอย่างไร เราไม่มีความรู้เรื่องขั้นตอนทางกฎหมายแต่อย่างใด