ผลการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าลายนิ้วแฝงที่พบบนโก่งไกปืนเป็นของใคร

งานนี้ทำเอาสังคมมีช็อคแน่นอน กับรายงานข่าวนี้ กรณีที่ทาง พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. ได้เคยออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผลการตรวจพิสูจน์ทราบลายนิ้วมือแฝงบนอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอก ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดจากนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี นางนที เลียมแสน อายุ 43 ปี นายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาในคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ในที่เกิดเหตุขณะเข้าทำการจับกุม ซึ่งประกอบด้วยอาวุธปืนยาว (ปืนไรเฟิล) ยี่ห้อ STEYR-MANNLICHER-M หมายเลขตัวปืน 201820 ทะเบียนอาวุธปืน กท.2850473 อาวุธปืนยาวลูกซองแฝดเบอร์ 20 ยี่ห้อ AYA-AGUIRRE & ARANZABAL – MADE IN SPAIN หมายเลขตัวปืน 378 และปรากฏเลขทะเบียนอาวุธปืน ก.ท.4552202  และอาวุธปืนยาวขนาด .22 ยี่ห้อ CZ 452 ZKM SCOUT CZ-USA, Kansas City , US หมายเลขตัวปืน 778590”  โดย ผบก.พฐก. มีการระบุชัดเจนว่าพบลายนิ้วมือแฝงของนายเปรมชัยบนโก่งไกปืนลูกซอง ซึ่งคาดว่าน่าจะ เป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงเสือดำ

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากรายละเอียดของสำนวนคดีดังกล่าวกลับพบว่า พยานหลักฐานต่างๆ ที่ทางพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวได้มีการสรุปและส่งให้กับทางอัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้นั้น ไม่ปรากฏหลักฐานที่บ่งชี้แน่ชัดว่ามีลายนิ้วมือแฝงของนายเปรมชัยและพวกอยู่บนโก่งไกปืน อาวุธปืนทั้ง 3 กระบอกที่ตรวจพบ ตามที่พล.ต.ต.ธวัชชัย เคยกล่าวอ้าง เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่ส่งมาให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ผู้ทำสำนวนคดี ในครั้งนั้นยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าลายนิ้วแฝงที่พบบนโก่งไกปืนลูกซองนั้นเป็นลายนิ้วของใคร เนื่องด้วยลายนิ้วมือแฝงที่พบนั้นเป็นส่วนปลายของนิ้ว จึงยากต่อการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จึงทำให้หลักฐานในการเอาผิดกับนายเปรมชัยและพวกมีน้ำหนักน้อยลง เนื่องจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะดีเอ็นเอหรือลายนิ้วมือแฝง ซึ่งก่อนหน้านี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทางเจ้าหน้าที่จะใช้ในการเอาผิดกับนายเปรมชัยและพวก