ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บิดาและมารดาของผู้สมัครเข้าสอบในตำแหน่งพนักงานจ้าง ปฏิบัติงานสาธารณสุขกับเทศบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนมกราคมที่ผ่านมาทราบว่าทางเทศบาลฯ เปิดรับสมัครพนักงานจ้าง ลูกตนจึงได้ไปสมัครไว้
หลังจากนั้นได้รับการติดต่อจากนายกเทศมนตรีฯ และได้เสนอตำแหน่งให้แลกกับเงิน 1 แสนบาท โดยระบุว่าต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวมาจัดการให้ พร้อมกับให้คำยืนยันว่า สามารถให้ผ่านการคัดเลือกและเข้าทำงานได้เนื่องจากมีอำนาจอยู่ที่ปลายปากกา และที่ผ่านมาก็สามารถเอาญาติพี่น้องเข้าทำงานที่เทศบาลฯ ได้จำนวนหลายคน
พ่อ-แม่ผู้สมัครสอบเป็นพนักงานจ้างเทศบาลฯ แห่งนี้บอกอีกว่า ตอนนั้นตนก็คิดว่าด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานประกอบกับอยากให้ลูกได้งานทำจึงได้ตกลง และโอนเงินให้จำนวน 1 แสนบาท แต่ปรากฏว่าเดือนกุมภาพันธ์เมื่อมีการประกาศผลลูกสาวตนกลับไม่ได้งาน จึงได้ติดต่อถามไปยังนายก ซึ่งอ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง
“ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจเรื่องสอบได้หรือไม่ได้ แต่ก็ขอเงินคืน ซึ่งก็ถูกปฏิเสธคืนเงิน โดยนายกอ้างว่านำเงินไปใช้ในการจัดการหลายคนหลายฝ่าย และลูกก็สอบติด แต่ไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งที่จะถูกเรียกให้เข้าทำงาน”
โดยทางนายกได้เสนองานในตำแหน่งฝ่ายบัญชีของศูนย์เด็กเล็กฯ แทน ซึ่งไม่ตรงกับความถนัดที่เรียนจบมาจึงปฏิเสธและขอเงินคืน แต่ทางนายกก็บ่ายเบี่ยงหลายครั้ง ทำให้ต้องติดตามทวงถามเงินที่ถูกเรียกรับหลายครั้ง จนได้รับการคืนเงินมาจำนวน 50,000 บาท และได้ติดตามทวงถามหนักขึ้นจนได้รับการคืนเงินครบจำนวนในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ตนและครอบครัวยังเชื่อมั่นว่าลูกจะได้งานที่เทศบาลฯ ก็ทำให้เสียโอกาสการสมัครงานที่อื่นด้วย อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจกับระบบการรับสมัครงานที่ต้องใช้เงินแลกมากกว่าความสามารถ จึงอยากเปิดเผยข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้ที่อื่นๆ กระทำเช่นนี้อีก
ที่มา – mgronline