เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์(จุดประโคนชัย) รับแจ้งเหตุหมูป่ากัดประชาชนที่บ้านโคกม้า หมู่ 2 ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จึงรีบเดินทางไปให้การช่วยเหลือ พบนางเจือง ทวันเวช อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม. 7 ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย มีร่องรอยจากการถูกหมูป่าทำร้าย เป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง จึงรีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรพ.ประโคนชัย
ส่วนหมูป่าเป็นเพศเมีย สีดำ น้ำหนักประมาณ 100กิโลกรัม อายุประมาณ 5-6 ปี ถูกชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ใช้ไม้ไล่ตีตายในกองฟางใกล้บ้านที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่าได้ยินเสียงคนร้องเอะอะโวยวาย ลักษณะเหมือนถูกทำร้ายร่างกาย จึงพากันเดินไปดูที่บ้านพักของลูกสาวนางเจือง ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูง มีบันไดเดินขึ้น 3 ชั้น พบนางเจือง กำลังถูกหมูป่าสีดำเพศเมีย สีดำ น้ำหนักรประมาณ 100 กิโลกรัม กำลังขึ้นคร่อมอยู่บนร่าง และกำลังกัดแทะร่างกาย ของนางเจืองอย่างโหดเหี้ยม
ชาวบ้านจึงใช้ไม้และวัตถุต่างๆที่หาได้ใกล้ตัว ไล่ตีหมูตัวดังกล่าว เพื่อไล่ไม่ให้ทำร้ายนางเจือง เมื่อถูกชาวบ้านตีหมูตัวดังกล่าวจึงวิ่งหนี ชาวบ้านจึงตามไล่ตีต่อ เพราะเกรงว่าหมูอาจจะไปไล่กัดเด็กหรือชาวบ้านในหมู่บ้านได้รับอันตรายเช่นนางเจืองได้ ก่อนที่หมูจะวิ่งไปซุกกองฟางใกล้บ้านที่เกิดเหตุชาวบ้านจึงได้รุมตีจนเสียชีวิต
ขณะเดียวกันชาวบ้านบอกด้วยว่า โดยก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านพบว่า หมูป่าเพศเมียสีดำตัวนี้ เกิดคุ้มคลั่งอาละวาดไล่ชนรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน มาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง ก่อนจะมาพบว่าก่อเหตุกัดยายเจือง
ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปศุสัตว์อำเภอประโคนชัย ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางปศุสัตว์อำเภอประโคนชัย ได้สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนนำซากหมูที่เสียชีวิตไปประกอบอาหาร เพื่อรับประทานโดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าหมูป่าตัวนี้อาจติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งทางปศุสัตว์อำเภอประโคนชัย จะดำเนินการนำซากหมูไปส่งตรวจพิสูจน์ หาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าต่อไป
Cr:สำนักข่าว ข่าวชัดประเด็นจริง