เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก “ล่า” ได้เปิดเผยข้อมูลที่สมาชิกเพจร้องให้ช่วยเหลือแฟนสาวที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน ล่าสุดเพจดังกล่าวได้โพสต์ความคืบหน้า หลัง ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่อง ว่า “ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย วังไชยา” สำนักสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้ดำเนินการแทนผู้ร้องทุกข์ ทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การสอบปากคำผู้ร้อง รวบรวมพยานหลักฐานที่มีจนเชื่อได้ว่า แฟนสาวของผู้ร้องเรียน โดนหลอกไปจริง และเข้าข่ายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

ซึ่ง นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 1 ระบุ หลังสอบปากคำผู้ต้อง เชื่อได้ว่า หญิงสาวคนนี้ถูกหลอกไปจริง มีการบังคับให้ขายบริการทางเพศ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้พัก ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งรวบรวมทั้งภาพถ่าย พิกัด ที่หญิงสาวคนนี้ส่งมา จากนั้นก็มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานหนังสือเดินทางต่างๆ ด้วย ก็น่าจะเชื่อได้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ จึงเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกรมการกงสุล และ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม.

นายธาตรี เชาวชตา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล เมื่อตรวจสอบเอกสารและสัมภาษณ์ผู้ร้องแล้ว ได้เร่งประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ให้การช่วยเหลือหญิงไทยคนดังกล่าว ตามพิกัดโรงแรมซึ่งเป็นที่ขายบริการทางเพศทันที และยังสามารถช่วยเหลือหญิงไทยได้เพิ่มอีกหนึ่งคนด้วย ขณะนี้ทั้งสองคนถูกนำตัวไปไว้ที่เซฟเฮาส์เพื่อรอส่งตัวกลับมายังประเทศไทย นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่า เฉพาะปี 2560 ยอดการช่วยเหลือหญิงไทยเฉพาะที่ประเทศบาห์เรนที่เดียว มากกว่า 200 คน แต่เมื่อได้รับการช่วยเหลือกลับมาแล้ว เกือบทั้งหมด ไม่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐต่อ ไม่คิดดำเนินคดีกับนายหน้า หรือแม่แท็ก หลายคนกลับมาเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ แล้วเดินทางออกไปทำงานในลักษณะเดิมยังประเทศอื่นๆ อีก แต่อย่างไรก็ตาม หลังหญิงสาวทั้ง 2 กลับมาจะต้องนำเข้าสู่กระบวนการ สอบปากคำของทีมสหวิชาชีพอีกครั้งหนึ่ง เพื่อลงความเห็นร่วมกันว่าทั้ง 2 เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ จริงหรือไม่