เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
 มีรายงานกรณีของชายไต้หวันรายหนึ่ง ที่ต้องเผชิญประสบการณ์ชอกช้ำ ถูกเมียรักหักหลังด้วยการคบชู้ แถมยังรู้ความจริงด้วยวิธีสุดเลวร้าย หลังบังเอิญไปได้ยินเสียงบันทึกบทสนทนาสุดเร่าร้อน ขณะที่เธอกำลังระเริงรักกับชายชู้ในรถ

สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นเหมือนฝันร้ายและเงามืดที่เกาะกุมใจ แม้ว่าเขาจะตัดสินใจตัดสัมพันธ์กับเธอไปแล้ว 2 ปี แต่เพราะความโกรธที่ไม่จางหาย ทำให้เขาตัดสินใจเดินหน้าฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเมียเก่ารายนี้ เป็นเงิน 1 ล้านหยวน หรือราว 5 ล้านบาท

โดยในเอกสารการฟ้องคดี เอ (นามสมติ) เผยว่า เขาแต่งงานกับ บี (นามสมมติ) ในปี 2556 ชีวิตแต่งงานก็ราบรื่นดีมีความสุขตามปกติ พวกเขามีลูกด้วยกัน 2 คน อย่างไรก็ตาม หลังคลอดลูกคนเล็ก ภรรยาก็กลับไปทำงานโดยมักจะนำรถขับออกไปด้วยบ่อย ๆ บางครั้งเขาถามเธอว่าจะไปที่ไหน แต่เธอกลับอารมณ์เสียใส่ บอกว่าเขาถามมากไปแล้ว

กระทั่งเดือนสิงหาคม 2561 เอสังเกตเห็นว่ารถของภรรยาเลอะมาก ด้วยความปรารถนาดี เขาจึงนำรถของเธอมาล้างให้ ตั้งใจจะทำความสะอาดทั้งด้านนอกและภายในรถ ระหว่างนั้นเขาเห็นว่ามีกล้องหน้ารถติดอยู่ ด้วยความอยากรู้จึงกดเล่นภาพที่บันทึกไว้ โดยไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเสียงกระเส่าของเมียดังขึ้น พร้อมกับเสียงของชายอีกคนที่เขาไม่รู้จัก

        ในบทสนทนาสุดบาดใจ เมียของเขาบอกชายชู้ว่าอย่าทำต่อเลย กางเกงเปียกไปหมดแล้วไม่เว้นแต่กางเกงชั้นใน แถมยังบอกอีกฝ่ายว่า “ครั้งหน้าให้นำถุงยางมาด้วย”

ความลับที่ได้รู้ ทำให้เอตัดสินใจกลับมาเผชิญหน้ากับเมียทันที ซึ่งสุดท้ายเธอก็ยอมรับว่านอกใจเขาจริง และต้องการหย่า

ในที่สุดทั้งคู่ก็หย่าขาดกันใน 2 เดือนต่อมา โดยที่เอเป็นฝ่ายรับลูกทั้ง 2 คนไปดูแล อย่างไรก็ตามแม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปี เขาก็ยังคงเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เอเชื่อว่าบีเป็นฝ่ายทรยศต่อชีวิตสมรส ทรยศครอบครัว แถมยังไร้สำนึก เขาจึงตัดสินใจจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเธอ ในเดือนกันยายน 2563

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพิจารณาคดีที่เพิ่งผ่านมา บีอ้างว่าคนที่นอกใจไม่ได้มีเพียงเธอคนเดียว เอก็แอบคบชู้เช่นกัน ดังนั้นเขาเองก็มีส่วนรับผิดชอบที่ทำให้ชีวิตแต่งงานพัง แถมเขายังใช้เวลาตั้ง 2 ปีหลังหย่ากัน กว่าจะมาเรียกร้องอะไรจากเธอ

ผู้พิพากษาได้สอบถามเอว่าเขาพบคลิปที่บันทึกเสียงของภรรยาตั้งแต่เมื่อไร เขาก็ยืนยันว่าพบตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 และตัดสินใจหย่า อย่างไรก็ตาม เออ้างว่าตอนนั้นเขายังไม่ได้ฟังเสียงบันทึกทั้งหมด เพิ่งมารู้บทสนทนาทั้งหมดเต็ม ๆ ในเดือนกันยายน 2563 จึงเพิ่งยื่นฟ้อง

ท้ายที่สุดทางผู้พิพากษายึดความจริงที่ว่า เอพบความจริงเรื่องที่ถูกภรรยานอกใจมาตั้งนานแล้ว และกว่าเขาจะมาฟ้องเรียกค่าเสียหาย ก็เป็นเวลา 2 ปีให้หลัง ซึ่งเลยระยะเวลาที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใด ๆ ได้ จึงตัดสินให้เอเป็นฝ่ายแพ้คดีนี้ไป