“อนุทิน” ส่งทนายฟ้อง “ณวัฒน์-วิโรจน์” หมิ่นประมาทปม พ.ร.ก.นิรโทษกรรมโควิด
“อนุทิน” ส่งทนายความยื่นฟ้องดำเนินคดี “ณวัฒน์-วิโรจน์” หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ มีถ้อยคำตำหนิให้ร้ายปม พ.ร.ก.นิรโทษกรรมโควิด ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 29 พ.ย. 64
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 23 ส.ค. 2564 นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้อง นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เป็นจำเลยต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2029/2564 ในข้อหาหมิ่นประมาทและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยการอ่านข่าวการให้สัมภาษณ์ของ นายอนุทิน กรณีพระราชกำหนดจำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และวิพากษ์วิจารณ์มีถ้อยคำตำหนิ ให้ร้าย สอดแทรกในระหว่างการอ่านข่าวหรืออ่านข้อความข่าวนั้น เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การเสนอข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่ นายณวัฒน์ ได้พูดโดยมีเจตนาที่จะชี้ชวนให้ประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ไปในทางที่เสียหายว่าเป็นผู้เสนอพระราชกำหนดดังกล่าว เพื่อเป็นการนิรโทษกรรม โดยอ้างบุคลากรทางการแพทย์มาบังหน้าเพื่อให้ตนเองและพวกพ้องพ้นผิด หรือไม่สามารถเอาผิดกับใครได้ ความจริงแล้ว นายณวัฒน์ ต้องตรวจสอบก่อนว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนตั้งคณะกรรมการยกร่างกฎหมายเพื่อพิจารณากลไกคุ้มครองผู้ทำงานในช่วงภัยพิบัติโรคระบาด โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกฟ้องร้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนหรือได้ศึกษาพิจารณาให้ได้ความกระจ่างหรือแนวทางการดำเนินการ แต่นายณวัฒน์ กลับด่วนสรุปโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ มิได้เป็นการติชมโดยสุจริต ทำให้ นายอนุทิน เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลได้รับคำฟ้องไว้แล้ว โดยกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 29 พ.ย. 2564 เวลา 09.00 น.
ในวันเดียวกัน นายอนุทิน ยังได้ยื่นฟ้อง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นจำเลยต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2030/2564 ในข้อหาเดียวกันกับ นายณวัฒน์ จากการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนผ่านเพจเฟซบุ๊กและช่องยูทูบของพรรคก้าวไกล กรณี พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดย นายวิโรจน์ วิพากษ์วิจารณ์ มีถ้อยคำตำหนิ ให้ร้ายต่อ นายอนุทิน ในระหว่างการแถลงข่าวและตอบคำถามนักข่าว โดยที่ไม่ใช่การติชมด้วยความเป็นธรรม อาศัยสื่อมวลชนเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ไปยังประชาชนทั่วไป แสดงให้เห็นถึงเจตนาของ นายวิโรจน์ ที่จะชี้ชวนสาธารณชนให้เข้าใจ นายอนุทิน ไปในทางที่เสียหายว่าเป็นผู้เสนอพระราชกำหนดดังกล่าวเพื่อเป็นการนิรโทษกรรมโดยอ้างบุคลากรทางการแพทย์มาบังหน้าให้ตนพ้นผิด
ขณะที่ความจริงแล้ว นายวิโรจน์ ทราบดีว่า พ.ร.ก.ดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนตั้งคณะกรรมการยกร่างกฎหมาย เพื่อพิจารณากลไกคุ้มครองผู้ทำงานในช่วงภัยพิบัติโรคระบาด โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกฟ้องร้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนหรือได้ศึกษาพิจารณาให้ได้ความกระจ่าง หรือแนวทางการดำเนินการ แต่นายวิโรจน์ กลับวิพากษ์วิจารณ์โดยที่มิได้เป็นการติชมโดยสุจริต เจตนามุ่งร้าย หวังทำลาย นายอนุทิน ในทางการเมือง ทำลายพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมี นายอนุทิน เป็นหัวหน้าพรรค อันอาจเป็นผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกผู้รับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และการกระทำดังกล่าวของ นายวิโรจน์ ทำให้ นายอนุทิน ต้องเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลได้รับคำฟ้องไว้แล้วโดยกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 29 พ.ย. 2564 เวลา 13.30 น.