เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เช ยอง ซอก…!! โค้ชเช ยื่นขอ”สัญชาติไทย”แล้ว วางแผนซื้อบ้านอยู่ไทยตลอดชีวิต

วันที่ 13 ส.ค. 64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กเอ” ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศ ได้นำ “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยและทนายความ มายื่นเอกสารขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการต่อ พ.ต.อ.เอกพงษ์ กองนาค ผู้กำกับการฝ่ายกฎหมายและวินัย บก.อก.บช.ส. โดยมี “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่เหรียญทองเทควันโดโอลิมปิกเกมส์ 2020 พร้อมด้วยสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติ มาร่วมลงนามในเอกสารเป็นสักขีพยาน ซึ่งมีการสอบสัมภาษณ์และทดสอบทักษะความเป็นคนไทย ประเมินเป็นคะแนนด้วย

ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ กล่าวว่า วันนี้ได้พา “โค้ชเช” มายื่นเอกสารขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้ยื่นเอกสารครบทั้งหมด ได้สอบสัมภาษณ์ พิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว จากนี้ไปทุกอย่างอยู่ในมือภาครัฐ ซึ่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาครัฐจะดำเนินการได้เร็วเพื่อให้โค้ชเชเป็นคนไทยได้เร็วที่สุด และจะเป็นกำลังสำคัญของทีมเทควันโดไทยอย่างเต็มตัว

เหตุผลของการที่ “โค้ชเช” เป็นคนไทยมีประโยชน์หลายอย่าง คือ ทำผลงานให้ประเทศไทยเยอะมากทางการกีฬา เขาจะได้อยู่กับเราไปตลอดจนเกษียณ นอกจากนี้ “โค้ชเช” ยังจะได้เป็นอาจารย์ประจำสอนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และยังช่วยสอนให้กับสโมสรอื่นๆ ในการพัฒนาเทควันโดไปทั่วประเทศ

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

-รีบจองด่วน ! รพ.สมุทรปราการ เปิดให้วอล์กอินฉีด “ไฟเซอร์” ถือบัตรประชาชนจองได้เลย

-เช็กได้แล้ว ! ประกันสังคมเปิดให้ตรวจสอบสิทธิ ม.39และม.40รับเงินเยียวยา5000บาท

 

ขณะที่ เช ยอง ซอก เปิดเผยว่า ตอนนี้ใช้ชื่อ “ชัชชัย เช” (ชัชชัย ชเว) แล้ว การได้มาทำเรื่องโอนสัญชาติ รู้สึกดีใจมากๆ และขอขอบคุณ ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ช่วยเดินเรื่องให้ทุกอย่าง รวมทั้งหลายคนที่ให้กำลังใจคอยช่วยเหลือเต็มที่ ดีใจจริงๆ เพราะเป้าหมายที่หวังมานานแล้วคือการได้เป็นคนไทย อยากช่วยพัฒนาเทควันโดไปยาวนาน อยากอยู่เมืองไทยนานๆ รักเมืองไทย และครอบครัวก็รักเมืองไทย ที่ผ่านมาอยู่เมืองไทยมา 20 ปี ทำอะไรไม่ได้หลายอย่าง เพราะเราไม่ได้เป็นคนไทย

แต่หลังจากนี้คงได้เป็นคนไทยอย่างเต็มตัว ซื้อบ้านในเมืองไทยอยู่ไปตลอดชีวิต โดยตอนไปยื่นเอกสาร ตนมีโอกาสได้สอบสัมภาษณ์ทดสอบความเป็นคนไทย ซึ่งผลออกมา 100 คะแนนเต็ม รู้สึกยินดี และอนาคตถึงตนจะมีชื่อไทยเป็น ชัชชัย แต่ก็ยังให้คนไทยทุกคนเรียกผมโค้ชเช เหมือนเดิมได้

ด้าน “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจโค้ชเช ซึ่งตนได้เล่าถึงโค้ชในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบว่า ไม่ว่าเราจะลงแข่งขันกับประเทศไหน หรือแม้กระทั่งแข่งกับประเทศเกาหลี เมืองบ้านเกิดของโค้ช ซึ่งโค้ชจะบอกทุกครั้งที่ลงแข่งว่า เราคือคนไทย ทำเพื่อประเทศชาติ เราต้องชนะเกาหลี แสดงให้เห็นว่าโค้ชเช รักเมืองไทยมากๆ อยากให้โค้ชเชได้สัญชาติไทยเร็วๆ

ส่วน พ.ต.อ.เอกพงษ์ กองนาค ผู้กำกับการฝ่ายกฏหมายและวินัย บก.อก.บช.ส. เปิดเผยว่า กรณีของโค้ชเช ขอยื่นสัญชาติไทย ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ซึ่งมีเงื่อนไขว่า

1. โค้ชเช ต้องมีอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว

2. เรื่องความประพฤติต้องตรวจสอบทั้งทางคดีอาญา และคดีความมั่นคงว่ามีคดีหรือไม่

3. การมีอาชีพ ซึ่งโค้ชเชมีอาชีพเป็นโค้ชทีมชาติ

4. ต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี

5. ต้องมีความรู้ด้านภาษาไทย แต่เนื่องจากโค้ชเช เป็นผู้ที่ประกอบความดีความชอบ เข้าเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติสัญชาติ มาตรา 11(1) เป็นไปตามแนวทางของ การกระทรวงมหาดไทย

หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ให้ครบทั้ง 5 ส่วน และเมื่อได้เอกสารครบถ้วนแล้ว จะทำเรื่องเสนอไปที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะทำเรื่องเข้าอนุกรรมการกลั่นกรองของมหาดไทย โดยมีอธิบดีกรมการปกครองเป็นประธาน แล้วจะส่งเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีปลัดกระทรวงเป็นประธาน

ถ้าผ่านความเห็นชอบแล้ว จะส่งต่อไปให้รัฐมนตรีพิจารณา แล้วเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเสนอต่อไปยังสำนักงานราชเลขาธิการ นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต

จากนั้น “โค้ชเช” จะต้องมาทำการปฏิญานตนว่าจะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตต่อประเทศไทย แล้วจึงจะส่งเรื่องกลับไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า “โค้ชเช” ได้สัญชาติไทยเรียบร้อย และจะนำเอกสารนี้มาขอหนังสือรับรองเป็นหนังสือสำคัญจากสันติบาล แล้วจะนำไปขอทำบัตรประจำตัวประชาชนจึงจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์

ตามปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน แต่เนื่องจากว่าผู้บังคับบัญชาตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล รวมถึงกระทรวงมหาดไทยให้ความสนใจ อาจทำให้ใช้เวลาเร็วขึ้น