โครงการ ” หัวหิน รีชาร์จ ” ต.ค. ถึง ธ.ค. 2564 จ่อ เปิดรับชาวต่างชาติ 100,000 คน คาดเงินสะพัด 1.2 พันล้านบาท จ้างงานภาคธุรกิจบริการอีก ราว 89,000 คน
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ห้องประชุมสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นาย พรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมนำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ผ่านระบบโปรแกรมซูม เพื่อเตรียมความพร้อมแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว ในจังหวัดนำร่องโดยไม่ต้องกักตัวตามเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นภายใต้มาตรการป้องกันที่เคร่งครัด และอยู่ในเงื่อนไขที่ยอมรับความเสี่ยงต่อการระบาดได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เบิกเนตร ! ป.ป.ช. เปิดเผย บัญชีทรัพย์สิน ” บิ๊กปั๊ด (ผบ.ตร.) ” สุดมั่งคั่ง
-
“ก้อย อรัชพร” วอน! ควรจะยกเลิกระบบสินสอด ไม่ควรเปรียบเทียบผู้หญิงด้วยค่าของเงิน น่ารำคาญ!
น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเสนอผลการดำเนินงานภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ของ จ.ภูเก็ต ที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจังหวัดแรก ขณะที่พื้นที่หัวหิน-ชะอำ อยู่ในระยะที่ 3 ของเป้าหมายการเปิดการท่องเที่ยวในเดือน ต.ค. 2564 โดยขณะนี้มีการกำหนดแผนรองรับการเปิดเมือง 5 แผน ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนและบริหารด้านสุขอนามัยแผนพัฒนาเมืองหัวหิน-ชะอำ แผนการตลาดและการสื่อสาร แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และแผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง ด้าน นาย อิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นำเสนอแผนการตลาดและแผนการสื่อสารเพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว โดยระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาจะต้องมีใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง ได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง แต่ไม่เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อที่สนามบิน เดินทางด้วยยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เข้าพักในโรงแรมที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ โดยรอผลตรวจในห้องพัก พำนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหินอย่างน้อย 14 คืน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ตามระยะเวลาที่พำนักในวันที่ 6-7 และ 12-13 ก่อนออกเดินทางนอกเขตจังหวัดได้
นายกรด โรจนเสถียร ประธานภาคเอกชน โครงการหัวหิน รีชาร์จ กล่าวว่า ขณะนี้มีบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนครอบคลุมแล้วเกือบร้อยละ 90 โดยภาคเอกชนผู้ประกอบการได้ร่วมสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้กับบุคลากรด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรเป้าหมาย 90,564 คน
“คาดการณ์ว่าหากเทศบาลเมืองหัวหินสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่เดือน ต.ค. ถึง ธ.ค. 2564 จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท และมีการจ้างงานในภาคธุรกิจบริการอีกกว่า 89,000 คน โดยโครงการหัวหิน รีชาร์จ เป็นความร่วมมือของภาครัฐ โรงพยาบาลและสาธารณสุข สมาคม และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการขอความเห็นชอบจากภาครัฐให้จัดสรรวัคซีนอย่างเร่งด่วน”
ด้าน นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องมีแผนการรองรับที่ชัดเจนและมีความพร้อมจริงๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และบุคลากรการท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงจะสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้ รวมทั้งจะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.เพชรบุรี ด้วยเนื่องจากหัวหิน-ชะอำ มีเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน หลังจากนี้ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อขับเคลื่อนแผนการทำงานแต่ละด้าน มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม และจะมีการประชุมติดตามความพร้อมอย่างต่อเนื่อง