เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชา โรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า หลังจากเป็นที่เฝ้ารอมานานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรด่านหน้าอื่นที่ทำงานกับผู้ป่วย และผู้มีความเสี่ยง CV19 วัคซีนของไฟเซอร์ได้ถูกเริ่มกระจายออกไปทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวาน สำหรับเตรียมการเริ่มฉีด ให้กับบุคคลในเป้าหมายในสัปดาห์หน้า แล้วขยายไปสู่กลุ่มเป้าหมายต่อๆ ไปให้เร็วที่สุด เมื่อวานบ่ายแก่ๆ แล้วทางรพ.ศิริราชก็ได้รับวัคซีนล็อตแรกพร้อมกับในอีกหลายที่

ทีมงานบริหารวัคซีนได้วางแผนเตรียมการกันอย่างเข้มแข็งและไม่รอช้า แต่เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีความยุ่งยากในการเก็บรักษารวมถึงความซับซ้อนในการเตรียมวัคซีนให้พร้อมฉีด วันนี้จึงได้เริ่มมีการทดสอบระบบต่างๆ ตั้งแต่การจัดเตรียมไปจนถึงกระบวนการฉีดให้ได้เร็วที่สุด โดยมีบุคลากรที่ปฏิบัติงานในทีมโควิดวิกฤตทั้งสามทีมจำนวน 12 คนสมัครใจเข้าร่วมเป็นกลุ่มแรก

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของรุ่นบุกเบิก ขอชมว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่น ส่วนตัวแล้วเนื่องจากวัคซีนเข็มที่สามนี้มีปริมาณเพียง 0.3 ซีซี ซึ่งน้อยกว่าวัคซีนของซิโนแว็ค คือ 0.5 ซีซีที่ ฉีดไปแล้วสองเข็ม ทำให้ความรู้สึกปวดตึงบริเวณต้นแขนน้อยกว่าครั้งก่อนๆ

ส่วนผลข้างเคียงอื่นผ่านมากว่า 6 ชั่วโมงก็ยังไม่ปรากฏ เมื่อฉีดเสร็จหมาดๆ และย่างเท้าถึงไอซียูโควิดที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ คงจะด้วยแรงอิจฉา ของแพทย์และพยาบาลในทีมที่สมัครไปไม่ทันวันนี้ พวกเขาจึงรีบเสนอเตียงไอซียู ให้แลกใช้ได้ในคืนนี้ หากเกิดอาการ แพ้รุนแรงขึ้นแบบไม่คาดฝัน (แบบที่เหล่าคนเสนอก็คงอยากให้เกิดด้วย) ก็ได้แต่ส่ายหน้าขอยังไม่รับความหวังดีของพวกหน้าเนื้อใจเสือ พอเลิกงานแล้วกลับไปเอาของที่ที่ทำงานประจำ พบแพทย์เพื่อนร่วมงานรายแรก

ได้รับเชิญไปร่วมการสนทนาว่าด้วยเรื่องยาฟาวิพิราเวียร์มีพอไหม ส่วนตัวแล้วซึ่งรับทราบมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการสำรองและจัดหายามาไว้เพียงพอกับปริมาณผู้ป่วยใหม่รายวันที่ยังเพิ่มขึ้นช้าๆ นี้ต่อไปได้อีกหลายเดือน แต่ถ้ามีการเพิ่มอย่างก้าวกระโดดแบบหยุดไม่อยู่ แพทย์และพยาบาลที่หลงเหลือทำงานกันอยู่คงล้มหายไปเสียก่อนที่จะได้เห็นว่ามียาไม่พอใช้ในประเทศ อุปสรรคใหญ่ขณะนี้โดยเฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑล คือยังมีผู้ป่วยตกค้างในชุมชนอีกจำนวนไม่รู้เท่าไร ที่ยังเข้าไม่ถึงการตรวจหาเชื้อ

และที่ตรวจพบเชื้อแล้วแต่ยังเข้าไม่ถึงการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์เมื่อมีข้อบ่งชี้ ซึ่งแนวทางการรักษาล่าสุดได้ปรับข้อบ่งชี้การได้รับยาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีคอขวดที่การนำผลการตรวจเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา และเริ่มมีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์พร้อมนำส่งยาให้กับผู้ป่วยในชุมชนให้ได้เร็วที่สุด

ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของภาครัฐและภาคประชาชนจะต้องเร่งบูรณาการการทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนที่ระบบสาธารณสุขในภาพรวมจะซวนเซและทรุดล้มไปอย่างกู่ไม่กลับ #เดือนสิงหาอย่าออกบ้าน

เข็มสองไม่เอาแล้ว!! หมอศิริราช วอนรัฐบาลสื่อสารความจริงกับประชาชน