เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เจ๊ติ๋มทีวีพูล เฮ ศาลปกครองกลาง พิพากษา ให้ กสทช.คืนเงินกว่า 1,500 ล้าน เหตุไม่ปฏิบัติตามสัญญา เจ้าตัวพอใจ หลังทุกข์หนักหลายปี ระบุ หลายคนเกือบฆ่าตัวตาย เตรียม อุทธรณ์ ต่อ ขอค่าเสียหาย 700 ล้าน

ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทไทยทีวี จำกัด หรือเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลของบริษัทไทยทีวี เป็นโมฆะทั้งหมด และเพิกถอนหนังสือ กสทช.ฉบับลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2558 ,ฉบับลงวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ที่ให้บริษัทไทยทีวีชำระค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่งวดที่สองและฉบับลงวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ที่ยกเลิกให้บริษัทไทยทีวีได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่พร้อมกับให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่ให้ใช้คลื่นความถี่ และให้สั่ง กสทช.คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพจำนวน 16 ฉบับลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 รวมทั้งคืนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่บริษัทได้ชำระไปแล้วเป็นเงิน 365,512,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 บาทต่อปี นับแต่วันฟ้องจนชำระเสร็จสิ้นและค่าเสียหายจากการกระทำของ กสทช.จำนวน 713,828,282.94 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

โดยศาลปกครองกลาง พิพากษาว่า กสทช.กระทำผิดสัญญาที่ได้ทำการเชิญชวนไว้กับบริษัทไทยทีวี จำกัด จริง บริษัทไทยทีวี จำกัด แต่ข้อเท็จจริงพบว่าบริษัทได้ดำเนินกิจการทีวีดิจิตอลไปแล้วจึงต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจำนวน 258 ล้านบาท ตามที่ได้มีการดำเนินกิจการไป ส่วนหนังสือค้ำประกันธนาคารกรุงเทพจำนวน 16 ฉบับ ซึ่งเป็นค่างวด ตั้งแต่งวดที่สามเป็นต้นไปให้กสทช.คืนให้กับบริษัท แต่ถ้าไม่สามารถคืนได้ก็ให้ชดใช้เป็นเงินแทน อย่างไรก็ตามศาลปกครองกลางไม่ได้ให้ กสทช.ชดใช้ค่าเสียหายตามที่บริษัทเรียกร้อง เพราะภาวะการขาดทุนเกิดจากการดำเนินธุรกิจตามปกติ

นางพันธุ์ทิพา ให้สัมภาษณ์หลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า พอใจที่ศาลชี้ว่า กสทช.ทำผิดจริง ทำให้คนทั้งประเทศรู้ว่า กสทช.ทำผิดจริง ซึ่งศาลให้ กสทช.คืนแบงค์การันตีให้บริษัทไทยทีวีในงวดที่สาม สี่ ห้าและหก มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท แต่ศาลไม่ได้ให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 700 ล้านบาทตามที่ขอไป จึงจะยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติมในส่วนนี้ โดยมั่นใจว่ามีเอกสารที่ชี้ให้เห็นว่า กสทช.ทำผิดสัญญาจนทำให้เกิดความเสียหาย

“เชื่อว่าเราไม่ใช่คนที่ไม่เก่ง ไม่ใช่คนที่อ่อนแอ หรือไม่มีสายป่าน ขาดทุนแล้วจึงเลิก แต่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนเก่ง มีความสามารถ เพียงแต่สิ่งที่ กสทช.ทำไม่ได้เอื้อ และเป็นอุปสรรคจนทำให้เกิดความเสียหาย ประวัติการทำธุรกิจเกือบสี่สิบปีไม่เคยขาดทุนแม้แต่บาทเดียว ทำไมเราจึงจะมาโง่วันนี้ กลายเป็นคนมองธุรกิจไม่เป็น อ่อนแอ เป็นเรื่องที่กระทบภาพลักษณ์มาก การสู้วันนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อประชาชน ซึ่งตอนนี้ช่องอื่น ๆ ก็ลำบากหมด บางคนครอบครัวแตกแยก ถึงขนาดเกือบฆ่าตัวตาย ซึ่งล้วนเกิดจากการกระทำของ กสทช.ทั้งสิ้นถือว่าเป็นบาปอย่างยิ่ง และแม้ว่า กสทช.ชุดที่อนุมัตเรื่องทีวีดิจิตอลจะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ใครทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับผลกรรมนั้น” นางพันธุ์ทิพา กล่าว