เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่ พญ.นงนลินี จัยสิน ได้โพสต์ไปถึง สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ว่าทำไมถึงไม่ลงไปเจาะลึกคนไข้ในโรงพยาบาลสนามรับกลุ่มไหน เห็นแค่คนไข้หนักแล้วร้องไห้ แต่กลับกดดัน สปสช. กรมการแพทย์ขอยาอันตรายแจกคนไข้หนักเสียเอง พร้อมเตือนทำอะไรด้วยความแค้น จะเป็นบูมเมอแรงสะท้อนกลับมา

สรยุทธ

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด สรยุทธ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงร่ายยาวผ่านทางเฟซบุ๊ก “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” โดยระบุข้อความว่า “ตอบ คุณหมอ นงนลินี ครับ nongnalinee jaisin ผมไม่เคยประสานผู้บริหาร สปสช. กรมการแพทย์ เพื่ออยากเอายา (ฟาวิพิราเวีย) มาแจกคนไข้หนักเสียเอง นะครับ

คุณหมอเป็นอะไรครับ ถึงได้กล่าวหาคนอื่นง่ายๆ แบบนั้น 

คุณหมอบอกว่า คุณเห็นแค่ปลายทางที่คนไข้หนัก คุณร้องไห้ คุณประสานผู้บริหารสปสช.กรมการแพทย์ที่อยากเอายามาแจกคนไข้หนักเสียเอง โชคดีบังเอิญที่ดิฉันได้รับรู้ความพยายามอันนี้ จึงพยายามโพสต์ พยายามโทรเข้ากรมการแพทย์ เพื่อมิให้พวกคุณนำยานำออกซิเจนมาแจกเสียเอง เพราะอะไร? เพราะคนเหนื่อยไม่ต้องการแค่ยา ไม่ต้องการออกซิเจน ต้องการการประเมินดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการยาลดการอักเสบที่ใช้ฉีดเอา มิได้กินเอา ถ้ารักษาคนไข้หนักกันเอาเอง เราก็จะเหมือนอังกฤษ ที่ช่วงนึงคนตายเยอะมากเพราะแจกยาต้านไวรัสและสเตียรอยด์ผลที่ตามมาคือได้พันธุ์ไวรัสเป็นของตัวเอง

ย้ำนะครับ ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดว่า จะเอายามาแจกผู้ป่วยเสียเอง เพราะผมไม่ใช่หมอ ที่เคยพูดคุย (อย่างเปิดเผยผ่าน live) กับเลขาธิการ สปสช. ก็คือการถามถึงนโยบาย home isolation เพื่อผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวกักตัวเองอยู่บ้าน โดยจะมีระบบดูแล และส่งของจำเป็นไปให้อย่างไร ผมก็เพียงถามว่าถ้าผู้ติดเชื้ออยากได้ยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวีย จะมีหลักเกณฑ์อย่างไร คำตอบก็เป็นนโยบายของ สปสช. ว่าสามารถให้ได้อย่างไร

ส่วนตัวผม ตั้งแต่วันที่คุยกับ เลขาฯ สปสช.ในวันนั้น (ซึ่งไม่ใช่การกลับลำ อย่างที่คุณหมอมาขอบคุณผมในเวลาต่อมา) คือ ผู้ป่วยสีเขียวให้อยู่ home หรือ community isolation เพื่อจะสงวนเตียงใน รพ. และหมอพยาบาล ไว้ช่วย ผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง ไม่อย่างนั้น เราจะสูญเสียกันอีกมาก ถ้าผู้ป่วย 2 กลุ่มนี้ตกค้างตามบ้าน ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หลักฐานก็เป็นบันทึกที่อยู่ในเพจนี้ครับ ส่วนกรมการแพทย์ ผมไม่เคยพูดคุย แม้กระทั่งวันที่พบอธิบดีกรมการแพทย์ ในวันพบสื่อ ผมก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้

สรยุทธ

ส่วนที่ผมเคยโพสต์และพูดเรื่อง ยาฟาวิพิราเวีย ไปรายการคือ คิดเองว่า ถ้าตรวจ แอนติเจน เทส แล้ว ผลเป็นบวก ควรได้ ยาฟาวิพิราเวียร์ ง่ายกว่านี้? ในภาวะฉุกเฉิน แล้ว กว่าจะต้องรอเข้าตรวจ RT-PCR กว่าจะได้ตรวจ กว่าจะยืนยันผล กว่าจะเข้าระบบ แล้วถึงจะได้รับการพิจารณาให้ยาฟาวิฯ มันจะช้าไป จากสีเขียว จนกลายเป็นสีเหลือง เป็นสีแดง ไปก่อนหรือเปล่า สายพันธ์ุเดลต้า อาการรุนแรงใน 3-5 วัน เร็วกว่า สายพันธุ์อัลฟา ที่ 7-10 วัน อยากขอความรู้จากแพทย์จริงๆ ครับ

หลักฐานก็อยู่ในเพจ และในคลิปรายการ ผมขอเอายาฟาวิพิราเวีย มาแจกเองตรงไหนครับ ผมเพียงตั้งข้อสังเกตถึงระบบเมื่อให้ตรวจ ATK แล้วยังไงต่อ กว่าจะเข้าระบบได้ต้องผ่านอะไร และกว่าจะเข้าถึงยาฟาวิพิราเวียมันจะช้าไปหรือไม่ กับความฉุกเฉินที่เป็นอยู่ ผมแค่ขอความรู้ ไม่เคยกดดันให้แจก และไม่เคยไปขอมาแจกเอง