เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุดร หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในจ.อุดรธานี โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 48 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,442 ราย กลับบ้านแล้ว 709 ราย รักษาอยู่ 717 ราย ตอนนี้มีอยู่ 2 คลัสเตอร์โควิดที่น่าเป็นห่วง คือ คลัสเตอร์ศูนย์พักพิงผู้สูงอายุฯ ล่าสุดยอดผู้ติดโควิด เพิ่มเป็น 45 ราย และคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานผลิตอุปกรณ์ทันตกรรม ที่บ้านเลื่อม ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 17 คน สำหรับคลัสเตอร์ศูนย์ดูแลพักพิงผู้สูงอายุ พบว่า มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดในกลุ่มเป็นก้อนนี้อยู่ 45 คน ถ้าแบ่งในกลุ่มนี้จะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกันอยู่ 3 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นส่วนผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงโรคความดันเบาหวาน ส่วนใหญ่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งในกลุ่มนี้ติดเชื้อไปทั้งหมด 12 คน ในกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งก็มีผู้ดูแลทั้งหมด 14 คนด้วยกันเพราะมีการติดเชื้อไปทั้งหมด 9 คน กลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มเป็นกลุ่มผู้ดูแลระบบที่เป็นทำงานแบบ ชั่วคราวที่มีอยู่ทั้งหมด 54 คน กลุ่มนี้ซึ่งเรียนจบแล้วก็มาทานที่จุดนี้การพักอาศัยอยู่หอพักอยู่ร่วมกันได้ก็มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 22 คนในกลุ่มนี้

จากการสอบสวนพบว่า คนแรกที่นำเชื้อเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งพบตามก็คือในรายที่ผู้ดูแลผู้ป่วยในรายที่ 1142 อายุ 21 ปี เป็นผู้ดูแลผู้ป่วย ตรวจสอบแล้วพบรายนี้มีสามีมีการเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 64 ที่ผ่านมา ตรวจสอบย้อนไปแล้วก็พบว่าเพื่อนในที่ทำงานมีการติดเชื้อด้วย ในรายนี้มาครั้งแรกที่เข้ามาแล้วก็กักตัวอยู่ที่บ้านร่วมกับภรรยาไม่ได้ออกไปไหน แต่ตรวจครั้งแรกไม่พบติดเชื้อแล้วก็กักตัวครบ 14 วัน เมื่อพบว่ามีผู้ป่วยเกิดขึ้นเหล่านี้ในการสอบสวนติดตามทั้งหมดแล้ว ก็นำมาตรวจอีกครั้งหนึ่งก็เพราะว่าเป็นผู้ติดเชื้อด้วย จากผลแล็ปพบว่าปริมาณเชื้อในร่างการมีน้อยมาก รายนี้น่าจะเป็นผู้นำเชื้อมาแพร่ทั้งหมด เพราะรายอื่นไม่ได้มีประวัติเดินทางออกไปไหน

ส่วนคลัสเตอร์ที่ 2 คือ โรงงานผลิตอุปกรณ์ทันตกรรมแห่งหนึ่งที่ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี มีพนักงานทั้งหมด 34 คน และตรวจครั้งแรกติดเชื้อ 8 คน ตอนนี้พบเชื้ออีกรวมเป็น 17 คน ส่วนต้นเหตุในการเกิดคลัสเตอร์นี้ เพราะว่าบิดาของผู้ติดเชื้อคนหนึ่งได้มีการตั้งวงดื่มเหล้ากันกับกลุ่มหนึ่งที่เป็นพนักงานที่อู่ซ่อมรถ ซึ่งมีพนักงานขับรถทัวร์สายอุดร-สกล และสายอุดร- กทม. พนักงานประจำอู่ ก็มีโอกาสที่จะมีได้รับเชื้อจากพนักงานขับรถทัวร์

นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวถึงกรณีผู้เสียชีวิตของจังหวัดอุดธานี ติดเชื้อโควิด-19 แล้วเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นสาววัย 47 ปี จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าได้มีการฉีดวัคซีนยี่ห้อ “ซิโนแวก” ครบ 2 เข็มจริง โดยเข็มแรกฉีดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 64 เข็ม 2 ฉีดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 64 โดยผู้เสียชีวิตคนนี้ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20-26 มิถุนายน 64 แล้วได้รับเชื้อที่กรุงเทพฯ และมาฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในวันที่ 29 มิถุนายน ฉะนั้นมีคำถามว่า ทำไมมีการเสียชีวิตและรุนแรง ถ้าดูจากไทม์ไลน์แล้วก็ชัดเจนว่าฉีดเข็มแรกเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 64 เข็มที่ 2 ฉีกหลังจากได้รับเชื้อ ก็คือไปรับเชื้อในช่วงวันที่ 20 -26 มิถุนายน 64 ได้รับเชื้อแล้ว สาเหตุก็เพราะภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีนเข็ม 1 ไม่มากพอที่จะคุ้มกันจึงติดโรคได้ง่ายและป้องกันความรุนแรงยังไม่ได้ เมื่อมารับวัคซีนเข็ม 2 หลังจากรับเชื้อไปแล้วผู้ป่วยจึงมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้

สำหรับจำนวนการฉีดวัคซีนของจังหวัดอุดรธานี โดยมีเป้าหมายคือประชาชนทุกคน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,163,713 คน และตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน – 14 กรกฎาคม 2564 จ.อุดรธานี ได้รับการจัดสรรวัคซีนและทำการฉีดไปแล้ว 2 ยี่ห้อ คือ AstraZeneca, Sinovac และซิโนฟาร์ม โดยเข็มที่ 1 ฉีดไปแล้ว 90,129 คน คิดเป็น 7.7% ของกลุ่มเป้าหมาย เข็มที่ 2 ฉีดไปแล้ว 33,701 คน คิดเป็น 2.9% ของกลุ่มเป้าหมาย

นพ.ธีระวัฒน์ เผยเรื่องขำไม่ออก ของคนด่านหน้า การใช้ซิโนแวคตามด้วย แอสตร้า อาจเหมือนได้แอสตร้าเข็มเดียว