นางมณีรัตน์ ทองระหมาน อายุ 55 ปี ชาวบ้านใน อ.เมืองตรัง ร้องเรียนกรณีบุตรสาว คือ “น้องพะแพง” หรือ น.ส.ภาวิณี ทองระหมาน อายุ 25 ปี นักกายภาพบำบัด โรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยมี นพ.วรทร มุนินทร สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง เป็นผู้ผ่าตัดบริเวณภายในช่องคลอด เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 หลังสัมผัสพบความผิดปกติเป็นลักษณะก้อนเนื้อแข็งอยู่ภายในช่องคลอด
ข่าวอื่นๆเพิ่มเติม
- รวบ 18มงกุฎ ! อ้างเป็นหมอ หลอกขายวัคซีน
- “แนท เกศริน” ซัดหมอทวีศิลป์ ให้กักตัวเถียงนา แนะทดลองก่อนเลย
โดยหลังจากการผ่าตัดพบว่า ระบบขับถ่ายผิดปกติ มีอุจจาระไหลออกมาทางช่องคลอด ซึ่งช่วงแรกลูกสาวคิดว่าเป็นเศษอุจจาระที่อาจกระเด็นจากการใช้สายชำระ แต่เมื่อผ่านไป 2 เดือนจึงรู้ว่าไม่ได้เกิดจากการกระเด็นจากการชำระล้างตามที่คิดในเบื้องต้น ต่อมา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 จึงได้เข้าตรวจอีกครั้งกับสูตินรีแพทย์อีกคน จนทราบว่า ช่องคลอด และทวารหนักทะลุถึงกัน เป็นสาเหตุให้มีการขับถ่ายออกทางช่องคลอด และทวารหนักทั้ง 2 ช่องในเวลาเดียวกัน จากนั้นในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ทางโรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง ได้ส่งตัวลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งแพทย์ที่โรงพยาบาลชลบุรี บอกว่าจากการตรวจประวัติการรักษา เชื่อว่าเกิดจากการผ่าตัดผิดพลาดของแพทย์ แต่แพทย์ที่โรงพยาบาลชลบุรี ระบุว่าไม่สามารถเขียนใบรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรให้ได้ ส่วนเรื่องของการผ่าตัดแก้ไขซ่อมแซมไม่มั่นใจว่าจะกลับมาเป็นปกติเช่นเดิมหรือไม่ อาจต้องผ่าตัดบ่อยครั้งไปตลอดชีวิต
ทางด้าน นางมณีรัตน์ ทองระหมาน ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องความผิดพลาดจากการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง ได้นัดพูดคุยกับแพทย์ผู้ผ่าตัด 2 ครั้ง และผู้อำนวยการได้นัดประชุมกันภายใน จำนวน 2 ครั้ง โดยไม่มีแพทย์ผู้ผ่าตัดเข้าประชุมด้วย แต่ไม่มีข้อสรุปที่น่าพอใจ โดยทางโรงพยาบาลต้นเหตุเสนอว่าจะรับผิดชอบเรื่องการผ่าตัดแก้ไขซ่อมแซมกรณีช่องคลอด และทวารหนักทะลุติดกันให้ลูกสาวของตนใหม่ แต่ให้ผ่าตัดกับโรงพยาบาลวิภาราม หรือโรงพยาบาลในเครือของโรงพยาบาลวิภารามเท่านั้น หากจะผ่าตัดที่โรงพยาบาลอื่นนอกเหนือจากนี้ ทางโรงพยาบาลจะไม่รับผิดชอบ ส่วนเรื่องเงินชดเชยหากบุตรสาวต้องการให้ไปฟ้องร้องตามกฎหมาย หรือขอเอากับประกันสังคมขณะที่แพทย์ผู้ผ่าตัดให้บุตรสาว
ปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของการผ่าตัด ในการผ่าตัดทำตามทฤษฎีทุกประการ ไม่มีอะไรผิดพลาด และแพทย์ผู้ผ่าตัดยังบอกว่า ลักษณะความผิดปกติแบบนี้น่าจะเป็นแต่กำเนิด โดยตนยืนยันว่าลูกสาวของตนเกิดมามีความปกติ 100% พร้อมโชว์หลักฐานบันทึกการคลอด และหลังคลอดของโรงพยาบาลที่ทำคลอดลูกสาว และตนเลี้ยงมาเองกับมือตั้งแต่แรกเกิด หากผิดปกติตั้งแต่แรก ตนในฐานะแม่คงต้องรีบรักษาตั้งแต่แรก ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนบุตรสาวโตขนาดนี้ โดยการร้องเรียนสื่อมวลชนในครั้งนี้ ตนอยากขอความเมตตาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาตรวจยืนยันความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากบุตรสาวของตนว่ามีสาเหตุจากการผ่าตัดดังกล่าว และอยากได้แพทย์ที่เชี่ยวชาญมาผ่าตัดแก้ไขเรื่องนี้ให้บุตรสาว ซึ่งหากจะให้บุตรสาวของตนผ่าตัดกับโรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง หรือโรงพยาบาลพยาบาลในเครือ แม่และบุตรสาวไม่มีความมั่นใจในกระบวนการรักษาแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากบุตรสาวไม่ได้ความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว ตนจะเดินหน้าร้องเรียนไปยังแพทยสภาต่อไป เพราะความผิดพลาดเช่นนี้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตปกติของบุตรสาว ยิ่งอนาคตหากแต่งงานมีครอบครัว ตนเชื่อว่าการใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากับสามีคงเกิดขึ้นไม่ได้แน่นอน และหากมองไปจนถึงการตั้งครรภ์ คลอดลูก หรือสุขภาพในระยะยาวจะต้องส่งผลเสียอย่างแน่นอน