เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ไอซ์ เผยทั้งน้ำตา สภาพจิตใจแม่ยังแย่ ลั่น!ขอไม่พูดถึงดราม่าต่างๆ

วันที่ 1 ก.ค. ที่ The Eyes Live Studio “ไอซ์-ณพัชรินทร์ ไพบูลย์รัตนกิจ” ลูกสาว “น้าค่อม ชวนชื่น” มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงาน เฟซบุ๊กไลฟ์-เพจร้อยเรื่องโรคเบาหวาน ในหัวข้อ ฉีดดี…ไม่ฉีดดี?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไอซ์ ณพัชรินทร์ เปิดใจเรื่องทรัพย์สิน น้าค่อม

“ไอซ์” ลูกสาว “น้าค่อม” เปิดใจ เรื่องทรัพย์สินของพ่อ ความเป็นอยู่ของแม่

โดยเธอได้เปิดใจกับสื่อถึงสภาพจิตใจ ของครอบครัวหลังสูญเสียน้าค่อม แต่ขอไม่พูดถึงเกี่ยวกับดราม่าต่างๆหลังจากที่น้าค่อมจากไป พร้อมทั้งเผยเรื่องราวดีๆ ผลงานโฆษณาผลงาน Krungsri Auto ของ Suneta House ที่น้าค่อมเล่นไว้ ไปคว้ารางวัล Cannes Lions Bronze Award ในหมวด Entertainment ที่ เมือง คานส์ “มางานเบาหวานวันนี้ ก็ทราบกันอยู่แล้วว่าคุณพ่อเป็นเบาหวาน งานนี้ก็คงเหมาะกับไอซ์ที่สุดแล้วค่ะ (หัวเราะ)”

ตอนที่รับมือกับอาการคุณพ่อต้องดูแลยังไง “ก็มีเรื่องอาหาร เรื่องการนอน และการทานยาค่ะ อีกนิดนึงก็คือเรื่องอารมณ์ของเขา เพราะคนเป็นเขาหวาน บางทีเฉพาะคุณพ่อหรือเปล่าไอซ์ไม่แน่ใจนะคะ ก็จะมีหงุดหงิดบ้างเป็นบางเวลา”

คุณพ่อเป็นระดับไหน “เป็นเบาหวานระดับปกติค่ะ ทานแค่ยาอย่างเดียว ไม่ต้องถึงกับฉีดอินซูลินเข้าไปค่ะ”

ส่วนมากคนที่เป็นเบาหวานจะดื้อ คุณพ่อดื้อมั้ย “ดื้อมากค่ะ (หัวเราะ) คือคุณพ่อกับคุณแม่เขาจะทะเลาะกันตลอด คุณแม่เขาจะพยายามให้พ่อทานอาหารแบบนี้ๆ แต่เวลาคุณพ่อออกไปทำงานข้างนอกพี่ๆ ที่ทำงานเขาก็ตามใจ เขาก็ได้ทานอะไรที่สุขเกษมเปรมปรีดิ์เหลือเกิน แต่เขาก็คุมตัวเองอยู่ตลอดค่ะ เพราะคุณพ่อค่อนข้างจะซีเรียสในสิ่งที่ตัวเองเป็น อย่างเขาเป็นเบาหวาน ความดัน หรือมีอะไรเพิ่มเติมเขาจะค่อนข้างซีเรียสในการดูแลตัวเอง”

คุณแม่ก็เริ่มเป็นเบาหวานแล้ว “ใช่ค่ะ คุณแม่ก็เป็นเบาหวานขึ้นตา แต่ของคุณแม่ไอซ์เขาเป็นคนไม่เคยตรวจสุขภาพร่างกายเลย พอเบาหวานขึ้นตาก็คือตาเขาพร่า แล้วก็เริ่มมองไม่เห็น ก็ต้องรักษาโดยการฉีดยาเข้าไปในตา แล้วก็เลเซอร์เข้าไปในลูกตาของเรา เพื่อให้กันลมอะไรสักอย่างออกมาได้”

มีความกังวลมากแค่ไหน “คุณแม่นี่เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าค่อนข้างจะกังวล และประจวบกับเรื่องคุณพ่อด้วย เห็นได้ชัดเลย”

ไม่ได้เป็นผลกระทบจากโควิดใช่ไหม “ไม่ค่ะ เขาน่าจะเป็นเบาหวานมาอยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยตรวจ คือเขาดื้อ แล้วพอเป็นโควิดก็เลยได้เช็กว่าเป็น”

ต้องดูแลใกล้ชิดมากแค่ไหน “ของคุณแม่ก็เรื่องตรวจตานะคะ ก็จะตรวจเดือนละ 2 ครั้ง ตั้งแต่ออกมาถึงตอนนี้คุณแม่ได้รับการฉีดยาเข้าไปในลูกตา 2 รอบ รอบที่ 2 คุณหมอก็ค่อนข้างที่จะชมว่าดีขึ้น ตอนนี้ก็กลับมามองได้ปกติบ้างแล้ว”

คุณหมอบอกว่ามีโอกาสหายไหม “มีค่ะ คือโรคเบาหวานมันสามารถหายได้อยู่แล้ว อยู่ที่เราดูแลและควบคุม คือเขาเคยดูแลพ่อมาแล้วเขาก็กลับมาดูแลตัวเอง ก็ถ้าคนที่เป็นเบาหวานแล้วง่ายๆ เลยก็คือควบคุมอาหาร สองถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็อย่าดื้อนะคะ ทำตามที่ลูกหลานแนะนำดีกว่า”

งานที่จะจัดให้คุณพ่อได้วันหรือยัง “งาน 100 วัน คุณแม่เขาก็มีเคาะๆ มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปแน่นอน อีกอย่างตอนนี้ยังทำอะไรที่เป็นพิธีการใหญ่หรือเอิกเกริกไม่ได้ ก็เลยอยากทำเฉพาะคนในครอบครัวค่ะ”

ช่วงที่ผ่านมาไอซ์กับคุณแม่รับกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไงบ้าง “คือมันต้องมองบวกอย่างเดียวเลยค่ะ (น้ำตาคลอ)”

คนก็ชื่นชมว่าเราเข้มแข็งมากๆ เป็นเสาหลักให้ครอบครัวได้เร็วมาก “ต้องทำค่ะ เพราะถ้าเราไม่ทำ (ร้องไห้) ทุกวันนี้หนูยังดูทุกอย่างที่เป็นรูปพ่อไม่ได้เลย ไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าหนูออกมาสัมภาษณ์แล้วหนูร้องไห้นะ คือมันไม่ได้จริงๆ”

พราะความที่เราเป็นลูกคนโตด้วย เราเลยต้องเข้มแข็งให้กับน้องๆ กับคุณแม่ด้วยใช่ไหม
“ต้องเข้มแข็งค่ะ เพราะว่าตอนนี้คุณแม่ก็ไม่เหลือใครแล้ว น้องก็คือน้อง อย่างเราความเป็นพี่ก็คือต้องดูแล ถ้าเราไม่เข้มแข็ง ไม่ทำให้เขาเห็นว่าเราสามารถดูแลเขาได้ เขาก็คงอาจจะหมดหวัง”

ตอนนี้ดูแลคุณแม่เรื่องสภาพจิตใจกันยังไง “ทุกอย่างเลยค่ะ ในบ้านก็จะมีพี่น้อง และมีแบงค์ด้วย ทุกครั้งที่ไปหาหมอก็จะเป็นหน้าที่ไอซ์กับแบงค์ อย่างน้องก็จะมีหน้าที่ดูแลตอนอยู่บ้านตลอด”

สภาพจิตใจแม่โอเคไหม? “ไม่โอเคค่ะ ไอซ์ว่านานค่ะ”

รับมือกับเรื่องหรือกระแสต่างๆที่เข้ามายังไงบ้าง? “ถ้าเป็นเมื่อก่อนเห็นอะไรที่ด่า หนูก็จะร้องไห้ตลอดเลย แต่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างที่พ่อไม่สบาย คนด่า คนต่อว่า มันกลับกลายเป็นเราเข้มแข็งขึ้น เพราะสิ่งที่เราเจอ ที่พ่อเราประสบพบเจอมันแย่กว่าบุคคลที่เขาเข้ามาว่าเรา เราก็มองบวก

อ่านแต่กำลังใจค่ะ ถ้าคนถามเยอะหนูก็เลือกไม่ตอบเลย อย่างที่ทุกท่านจะเห็นว่าหนูจะสรุปอาการคุณพ่อในรูปภาพในอินสตาแกรมเพื่อหลีกเลี่ยงการย้ำคิด ย้ำทำ หลีกเลี่ยงการร้องไห้ ค่อนข้างที่จะหลีกเลี่ยงในเรื่องพวกนี้”

หลังจาก “น้าค่อม” จากไปก็มีเรื่องข่าวต่างๆมากมาย ดราม่าบ้าง เรื่องเชื่อโยงบ้าง เราคิดเห็นอย่างไร? “ไอซ์ขออนุญาตไม่พูดถึงคนนะคะ พี่เข้าใจหนูใช่ไหม ตอนนี้ก็โฟกัสที่ครอบครัวก่อนอย่างเดียว เพราะว่าสัมภาษณ์ไปก็ร้องไห้ อย่างที่เห็นค่ะ เหมือนเราเห็นคุณพ่อทุกวัน เพราะคนก็แท็กมาหาทุกวัน ก็ยังไม่ค่อยแกร่งได้สักที”

เคยคิดไหมว่าทำไมเราถึงต้องมาอยู่ในจุดที่มีอะไรเข้ามาเยอะขนาดนี้? “คิดค่ะ แต่ว่าก็มองบวก หนูไม่รู้ว่าในความคิดหนูจะถูกหรือเปล่า ประสบพบเจอก่อน ทำใจได้ก่อน เก่งและแกร่งได้ก่อน”

หลานๆเป็นอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมา “พ่อค่อม” ค่อนข้างติดหลาน? “อย่างลูกสาวไอซ์หอมคุณตาทุกวัน หอมในรูป ก่อนจะเรียนออนไลน์ก็หอมทุกวัน ถ้าเป็นหลานคนเล็กก็ยังจะไม่ค่อยรู้เรื่องมากเท่าไหร่ แต่เห็นรูปคุณพ่อก็จะเรียกปู่ตลอดค่ะ”

คนในครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง? “น้องสะใภ้กับหลานชายที่ติดโควิด ก็ดีขึ้น ทุกคนในครอบครัวตอนนี้โอเคและคลีนหมดแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังกันต่อไปค่ะ”

ณ วันนี้ “ไอซ์” เป็นหัวหน้าครอบครัว? “น่าจะใช่อย่างนั้นเลยค่ะ กับคุณแม่ก็ให้กำลังใจกันตลอด แต่พอเราแค่จะเอื้อมมือไปจับเขา น้ำตาเขาก็มาแล้ว”

ยังมีแพลนงานเกี่ยวกับคุณพ่ออยู่ไหม? “มีค่ะ ยังมีตลอด เราก็ยังให้เกียรติแฟนคลับคุณพ่อทุกคนตลอด แต่ขอให้พ้นผ่านช่วงที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไปก่อน ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านนะคะ (ไหว้) ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือครอบครัวพวกเรา พวกเราน้อมรับและขอบคุณทุกท่านค่ะ”

ล่าสุดผลงานคุณพ่อได้รางวัลด้วย? “เราเป็นลูกก็จุดธูปบอกพ่อ เพราะเขาทำงานมาทุกอย่างแล้ว และสิ่งที่เขาอยากทำคืออยากเป็นพรีเซ็นเตอร์ และช่วง 2 ปีหลังเขาค่อนข้างมีงานพรีเซ็นเตอร์ แล้วงานนี้ได้รางวัล ถ้าเขาอยู่บ้านคงอุทานประสาเขา (ยิ้ม) ตอนจุดธูปก็บอกว่าพ่อได้รางวัลนี้นะ สิ่งที่พ่อทำประสบความสำเร็จตามที่พ่อคาดหวังแล้ว หนูจะพูดกับพ่อตลอด”

 

ถามถึงเรื่องสามีเราหน่อย “แบงค์” มีออกมาโพสต์ถึงชาวเน็ต? “มีคนมาคอมเมนต์เยอะว่า น้าค่อมไม่อยู่แล้วนะ เดี๋ยวสามีก็ทิ้งหรอก ไม่มีใครอยากจะเอาเธอแล้วนะ เราก็เอ๊ะ ทำไมถึงรู้ดีกว่าครอบครัวพวกเรา แต่แบงค์เขาไม่ชอบอะไรเรื่องชู้สาวแบบนี้อยู่แล้ว เขาเลยค่อนข้างที่จะโมโหนิดนึง ก็ปล่อยผ่านค่ะ”