เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รถ 22 ล้อ แหกโค้ง ! ชนกระบะดับ 3 ศพ

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 ก.ค.2564 ร.ต.อ.สนธยา ไทยประเสริฐ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สลุย รับแจ้งเหตุรถบรรทุกชนกับรถกระบะ บริเวณโค้งสายชล หรือ โค้งร้อยศพ ถนนเพชรเกษม ม.3 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยบรรเทาสารภัย ปภ.จ.ชุมพร และ หน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรที่เกิดเหตุบนถนนเพชรเกษมช่องทางขาขึ้นพบรถบรรทุกเทรลเลอร์ ยี่ห้อวอลโล่ 22 ล้อ หัวเก๋งทะเบียน 77-4467 กรุงเทพหานคร พ่วงหลังทะเบียน 74-5773 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างชนติดอยู่กับภูเขา ด้านหน้าพังเสียหาย ที่ใต้ท้องบริเวณส่วนของหัวรถเทเลอร์ พบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ ทะเบียน บร1058 นครปฐม สภาพหงายท้องถูกทับจนยุบแบนทั้งคัน มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน 3 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรช่องทางขาขึ้น 1 ช่วงยูเทิร์นเพื่อใช้รถเครนขนาดใหญ่มายกหัวเก๋งรถเทรลเลอร์ที่ทับรถกระบะออก แล้วใช้เครื่องตัดถ่างงัดนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายออกมา ต้องใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง ส่วนคนขับรถบรรทุกเทเลอร์ หลบหนีไปก่อนแล้ว จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย คนขับชื่อ นายราเชญ ชาวปากน้ำ อายุ 33 ปี, น.ส.ธิดารัตน์ ตั้งซุยยัง อายุ 36 ปี ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน และ นายวสันต์ เชื้อนุช อายุ 39 ปี สภาพทั้ง 3 ราย กระดูกหักหลายส่วน มีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่าง ภายในรถกระบะมีอุปกรณ์ช่างตกอยู่หลายอย่าง

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณช่วงโค้งซึ่งไหล่ทางด้านซ้ายเลียบติดกับภูเขาสูง พบแท่งแบริเออร์พลาสติกสีเหลืองสะท้อนแสงวางอยู่ขอบไหล่ทางหลายจุดถูกทับพังเสียหายหลายอัน และมีเสาไฟฟ้า สายเคเบิล ล้มขาดอยู่จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน หลังจากการสอบสวนทราบว่า นายราเชญคนขับและน.ส.ธิดารัตน์ สองสามีภรรยามีอาชีพรับเหมาซ่อมบำรุงสายเคเบิลให้กับ บริษัท แคท เทเลคอม โดยมี นายวสันต์ เป็นลูกน้อง ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คน ได้มาซ่อมบำรุงติดตั้งสายเคเบิลอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงกลางวัน จนกระทั่งใกล้เที่ยงคืนทั้ง 3 คน ได้เลิกงานและจัดเก็บเครื่องมือขึ้นรถเตรียมจะขับกลับบ้านพักในตลาดอำเภอปะทิว

และเป็นช่วงจังหวะที่รถบรรทุกเทรลเลอร์ขับเข้าโค้งหักศอกเลียบภูเขาได้พุ่งชนรถกระบะคันดังกล่าวที่จอดอยู่ข้างไหล่ทางอย่างจังจนรถกระบะพลิกหงายท้องแล้วทับลากครูดไปบนถนน จนเป็นเหตุให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิดติดอยู่ในซากรถดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างสอบสวนและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง และติดตามจับกุมคนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป