เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ช่วงกลางปี 2563 ในช่วงการระบาดของโควิด 19 หากใครจำได้ จะมีร้านอาหารร้านหนึ่ง ชื่อว่า โกดังชาบู ออกมาประกาศว่า ยังไงก็ไม่ขอปิดร้าน แม้รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ เพราะถ้าปิดร้านจะได้รับผลกระทบแน่นอน แถมรัฐบาลก็ไม่ยอมช่วยอะไร ขณะเดียวกัน เมื่อมีการระบาดระลอก 2 ทางร้านก็ไม่ปิดจริง บอกว่า ตายทั้งขึ้นทั้งล่อง

ล่าสุด วันที่ 16 มิถุนายน 2564 เจ้าของร้านโกดังชาบู มีการออกมาไลฟ์ทั้งน้ำตาถึงสถานการณ์ร้าน ในช่วงการระบาดโควิด-19 รอบล่าสุดซึ่งหนักหนาสาหัส มีผู้ติดเชื้อหลักพันมาติดต่อกันหลายเดือนแล้ว โดยฝากข้อความถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ดังนี้


ความในใจจากแม่ค้าติดดินคนหนึ่ง ณ ตอนนี้ ผ่านไป 3 เดือน เรามีปัญหาที่ต้องแก้ไขกับปัญหาที่เวลาเราเสียไปปีกว่า มันคงสายเกินไปแล้วที่จะก้าวต่อ พยายามต่อสู้อดทนแล้ว แต่ก็สายเกินไปที่จะแก้ไข มันคงหมดเวลาของโกดังชาบูแล้วจริง ๆ ขอโทษที่ดราม่า แต่ร้านคงจะอยู่ถึงเดือนกันยายนนี้เท่านั้น หากแบกภาระไม่ไหวจริง ๆ มีหนี้ค่าเช่าที่ประมาณ 1.7 แสนบาทที่ค้างไว้เป็นปี รวมหนี้อื่น ๆ ก็ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 4 แสนบาท

อนาคตเคยหวังว่า วันหนึ่งร้านเราจะกลับมาคึกคัก พยายามยื้อเอาไว้ เผื่อเจอวันดี ๆ แต่มันคงไปต่อไม่ไหวแล้ว ไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่ รถกำลังจะถูกยึด ตื่นเช้ามาก็มีแต่ข้อความทวงหนี้ ได้แต่ขอโทษเพื่อนที่เป็นคนค้ำประกันให้ จะรีบหาเงินมาใช้หนี้ให้ไวที่สุด สถานการณ์ตอนนี้ต่อให้เปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมงก็สู้ไม่ไหว

นอกจากนี้ เจ้าของร้าน กล่าวอีกว่า ต่อสู้เพื่อให้มีร้านมา แต่พอเจอโควิด 19 กลับเดี๋ยวสั่งให้เปิด เดี๋ยวสั่งให้ปิด ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เหมือนปลาได้น้ำนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ยิ่งสู้ยิ่งเหนื่อย ไม่รู้ว่ามีอีกกี่ร้านที่จะเจอสภาพแบบนี้ เวลาเห็นร้านอื่น ๆ ปิดตัว ก็นึกถึงตัวเองว่าจะเจอแบบนี้หรือเปล่า ร้านก็ต่อสู้มาตลอด รอวัคซีนโควิด ไม่รู้ปีนี้จะจบไหม อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือร้านค้าเล็ก ๆ หน่อย อยากให้คนเข้าใจ ไม่อยากให้ถึงวันปิดร้าน มันทำใจไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับ ยอมแพ้แล้ว เงินกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็กู้มาแล้วตั้งแต่รอบแรก แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น และซ้ำร้ายกว่าเดิมที่พอถึงกำหนดชำระก็ไม่มีให้ ทำให้เจ้าหนี้ไปทวงหนี้กับเพื่อนที่ค้ำ

 “หนูสู้จนไม่รู้จะสู้อย่างไรแล้ว (ร้องไห้) หนูอดทนเป็นปีกว่าที่ผ่านมา แต่คงสายเกินไปที่จะแก้ไขอะไรแล้ว หนูคงไม่มีปัญญาที่จะยื้อร้านไว้ได้ หนูอยากให้มันจบแค่ร้านหนู”

“หนูอยากให้ท่านช่วยคนที่เหลือ ร้านค้าที่เหลือ คนที่เขาตกงาน คนที่เขากำลังดิ้นรนอยู่ อยากให้เขาพลิกแพลงใหม่ได้ไหม ปรับเปลี่ยนเถอะ ถึงแม้เป็นเสียงเล็ก ๆ เป็นร้านเล็ก ๆ คนคนหนึ่ง แต่อยากให้เขารู้สึกถึงหัวใจคนบ้าง”