เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พิตบูลหลุด…!วิ่งออกมาจากประตูรั้วบ้าน ขย้ำเด็กหญิงวัย 3 ขวบ นอนโรงพยาบาล 3คืน 4วัน

สำหรับเหตุการณ์สุนัขพันธุ์พิตบูลหลุดออกมาทำร้ายเด็ก ทางผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนเข้ามาจากผู้ปกครองของเด็กที่โดนทำร้าย เพื่อต้องการให้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยและเตือนใจผู้ที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุว่า ให้ระมัดระวังการดูแลเลี้ยงสุนัข และไม่อยากให้มีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุร้ายภายในหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีเด็กเล็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายกัลป์พล คุณนุช และนางสาวศิริมาศ คุณนุช พ่อแม่ของน้องเปียโน เด็กหญิงวัย 3 ขวบเศษ ที่ถูกสุนัขพิตบูลสีขาว เพศเมีย สุนัขของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามในซอยเดียวกันหลุดออกมาจากบ้านพักก่อนจะวิ่งเข้ามาขย้ำกัดที่แขนของเด็ก ที่กำลังขี่รถเล่นอยู่บริเวณถนนหน้าบ้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 17.45 น.ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

โดยทางด้านพ่อแม่ของน้องเปียโน เล่าว่า ในวันเกิดเหตุนั้น แม่พาน้องเปียโนออกมาขี่รถเล่นที่บริเวณถนนหน้าบ้านของตนเอง ส่วนพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน สักพักช่วงที่แม่หันหลังให้ ก็มีสุนัขพิตบูลสีขาวที่เพื่อนบ้านเลี้ยงไว้ หลุดออกมาจากประตูรั้ว แล้วก็วิ่งเข้ามาขย้ำกัดลูกสาวจนล้มลงจากรถ ซึ่งแม่และพ่อของลูกได้รีบเข้าไปไล่สุนัขให้ออกจากลูก ก่อนที่แม่จะเป็นคนเข้าไปอุ้มลูกสาวขึ้นมา และเด็กอยู่ในอาการขวัญเสีย ซึ่งหลังเกิดเหตุทางครอบครัวได้พาลูกสาวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนอนพักเป็นเวลา 3 วัน 4 คืน ซึ่งหลังจากออกจากโรงพยาบาล เด็กก็ยังอยู่ในอาการตกใจ

ส่วนเรื่องความรับผิดชอบนั้น ทางผู้เสียหายบอกว่า เจ้าของสุนัขก็เข้ามาแสดงความรับผิดชอบ และขอรับใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมด และรับเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะตัวเองปิดประตูบ้านไม่สนิทและเป็นเรื่องสุดวิสัย เพราะตั้งแต่เลี้ยงมาไม่เคยปล่อยให้สุนัขออกมาเพ่นพ่านนอกบ้าน ซึ่งตนได้ขอให้เจ้าของสุนัขนำสุนัขไปเลี้ยงที่อื่นเพราะกลัวจะเกิดความไม่ปลอดภัยซ้ำอีก เพราะไม่รู้สุนัขจะหลุดมาอีกเมื่อไหร่ และหากไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ เด็กอาจโดนทำร้ายในจุดสำคัญ อาจบาดเจ็บสาหัสมากกว่านี้ก็ได้ ซึ่งหลังเกิดเหตุนั้น ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองสมุทรสาครแล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษานั้น ก็เป็นเรื่องของคดีความที่จะต้องดำเนินการรับผิดชอบตามกฎหมายอยู่แล้ว อีกทั้งตนยังได้ทำเรื่องไปยังส่วนกลางขอให้มีการสำรวจและวางระเบียบในการเลี้ยงสุนัขดุ หรือสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ดุร้ายภายในหมู่บ้านไว้อย่างชัดเจน เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาแบบนี้กับลูกหลาน หรือครอบครัวอื่นอีก และสุดท้ายคืออยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาควบคุมเรื่องของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดุร้ายภายในหมู่บ้านหรือชุมชนด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

-ญาติโวย…!! คุณยายวัย 80 ปี ไปฉีดวัคซีนเข็มแรกได้ 8 วัน เสียชีวิต

-ด่วน! พบคลัสเตอร์ใหม่ “สถานีโทรทัศน์ช่องใหญ่” ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก

 

ทางด้านนายจุฑาวัชร วิชกูล อายุ 30 ปี เจ้าของสุนัขพันธุ์พิตบูล ยอมรับว่าเหตุที่เกิดนั้น เป็นเพราะความไม่รอบคอบของตนเพราะคิดว่าปิดประตูสนิทแล้ว จึงทำให้สุนัขหลุดออกไปกัดเด็ก และเมื่อได้ยินเสียงคนร้องก็เลยรีบวิ่งออกไปก็เห็นว่าสุนัขของตนได้กัดน้องจนบาดเจ็บ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็แสดงความรับผิดชอบมาโดยตลอด ทั้งการไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล และยินดีจ่ายค่ารักษาให้จนสิ้นสุดกระบวนการรักษา ส่วนเรื่องการให้นำสุนัขออกไปนั้น ตอนแรกก็ยินยอมที่จะเอาออก แต่อีกฝ่ายขอให้ทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ตนจึงคิดว่าอาจจะดูมากเกินไป เลยคิดว่าเรื่องนี้ควรมีคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย และเรื่องความปลอดภัยนั้น ตนยืนยันว่ามีระบบในการดูแล ทั้งรั้วที่ทำอย่างแข็งแรงมีการเสริมด้านในให้หนาแน่น และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีสุนัขหลุดไป แต่ครั้งนี้ที่หลุดไปได้ เป็นเพราะความไม่รอบคอบที่ปิดประตูไม่สนิท

ส่วนที่ต้องมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่โรงพักนั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนไม่เคยปล่อยปละละเลยในการเลี้ยงสุนัข และไม่เคยคิดที่จะปัดความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตามข้อเรียกร้องของพ่อแม่เด็กที่ต้องการให้เอาสุนัขไปไว้ที่อื่น แม้จะมองว่าเป็นทางออกทางหนึ่งตามความต้องการของคู่กรณี แต่ก็ยังไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกตนและสุนัขที่เลี้ยงไว้ เพราะหากนำไปไว้ที่อื่นแล้วใครจะเลี้ยงดูและเข้าใจสุนัขเหล่านี้ได้ดีเท่ากับเจ้าของที่เลี้ยงมันมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ซึ่งก็คงต้องมีการเจรจาหาข้อตกลงและเป็นทางออกที่ดีที่สุดกับทั้งสองฝ่ายต่อไป

 

**************************************

(ขอขอบคุณเรื่องจาก เอเซีย ภาพ / พรเพ็ญ ข่าว)