เป็นอุบัติเหตุน่าสะเทือนใจที่สังคมพูดถึงอย่างมากในขณะนี้ จากกรณีนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง อายุ 50 ปี ขับรถหรู BMW Z4 ข้ามเลนพุ่งชนรถยนต์อีกคันที่ ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นเหตุให้คนที่มากับรถยนต์ที่ถูกชนเสียชีวิตทั้งคู่ รวมถึงตัวนายสุรภักดิ์ ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 3 ศพ
โดยนางนิตยา หิรัญ อายุ 61 ปี แม่ของ น.ส.กรกฎ หรือ น้องโฟน ระบุว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัว เนื่องจากตนมีลูกเพียงคนเดียว แม้จะเอาเงินมาให้ 100 ล้านบาท ก็ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องสูญเสีย เพราะน้องโฟนเป็นทุกอย่างของครอบครัว เป็นความหวังของพ่อแม่ที่จะคอยดูพ่อแม่ในยามแก่เฒ่า แต่กลับต้องมาจากไปแบบนี้ จึงทำใจไม่ได้อย่างมาก
ด้านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้เผยว่า รถเก๋งสวิฟต์นั้น เป็นรถของน้องโฟน ใช้ขับไปทำงาน ในตอนที่เกิดเหตุนั้น รถ BMW Z4 ขับปาดไปปาดมา ทั้งที่ฝนตก คนขับก็ขับซิ่ง หากเขาเสียชีวิตกันแค่ 2 คนในรถเก๋งตนคงเฉย ๆ แต่นี่ลูกของตนต้องมาตายด้วย
ทั้งนี้ เมื่อ 30 ปีก่อน ตนทำงานเป็นพยาบาล และประสบภาวะมีลูกยาก ตนกับสามีอยากมีลูกก็ต้องไปทำกิ๊ฟ เสียเงินไป 5 แสนบาท ฉีดยาบำรุงอีกเข็มละ 2,000 บาท การจะได้ลูกมาไม่ใช่เรื่องง่าย พอคลอดน้องออกมาน้องก็เลี้ยงง่าย น้องน่ารักและเป็นทุกอย่างของครอบครัว พอไม่มีลูกแล้ว ก็เหมือนหมดแล้วทุกอย่าง ตนในฐานะคนเป็นแม่ขอไม่ให้อภัยกับคนที่ทำให้ลูกตาย และจะสู้ให้ถึงที่สุด
“ถ้ารถเขาเบรกแตก ยางรั่ว เขาทำอะไรไม่ทัน เรายังทำใจได้ส่วนหนึ่งนะว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่ทำแบบนี้คือความประมาท 100% เลย แล้วเขามาทำแบบนี้น่ะ ลูกพี่น่ะ ใจขาดนะ…ลูกคนเดียว”
ด้านนายภูวดล หิรัญ อายุ 63 ปี ผู้เป็นพ่อเปิดเผยว่า กระบวนการทางกฎหมายได้มอบหมายให้น้องชายเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด เพราะตนยังรับไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นในข่าวว่ารถคู่กรณีขับด้วยความเร็วและส่ายไปสายมา ถือเป็นการขับรถที่ประมาท จนนำไปสู่การสูญเสียของครอบครัวผู้อื่นแบบนี้ ทั้งนี้ จะบำเพ็ญกุศลศพลูกสาวเป็นเวลา 4 คืน และจะฌาปนกิจในวันที่ 19 มิถุนายน 2564
