ทนาย ‘ษิทรา’ ควง ‘ลุงพลกับป้าแต๋น’ กราบขอพรหลวงพ่อรุ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวกระทุ่มแบน หวังช่วยคดี ก่อนเข้ากรุงเทพ

วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด  เดินทางด้วยรถตู้ส่วนบุคคลมาที่วัดท่ากระบือ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมีนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตน้องชมพู่ และคู่ชีวิตอย่างนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น อายุ 42 ปี เดินทางตามมาสมทบด้วยรถตู้โดยสารประจำทางที่เช่ามายังวัดท่ากระบือแห่งนี้ เพื่อมากราบสักการะรูปหล่อองค์หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวกระทุ่มแบนที่ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

โดยเชื่อกันว่านอกจากได้มากราบไหว้ขอพรจากองค์หลวงพ่อรุ่งวัดท่ากระบือ จะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแล้ว ยังจะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยมีโชคมีชัยในทุกด้าน เพราะท่านได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกจิชื่อดังแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน

ทนายษิทรา ได้พาลุงพล กับป้าแต๋น กราบไหว้ปิดทองรูปหล่อองค์จำลองหลวงพ่อรุ่งขนาดเท่าองค์จริง ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าและใต้ฐานองค์หลวงพ่อรุ่งองค์ใหญ่ อีกทั้งยังให้ลุงพลกับป้าแต๋น โน้มศีรษะเข้าไปใต้ฝ่าเท้าองค์หลวงพ่อรุ่งจำลอง เพื่อปัดเป่าทุกข์ภัยตามความเชื่อ พร้อมกันนี้ยังได้เคาะระฆังเสริมความเป็นสิริมงคล สร้างความสบายใจก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อีกทั้งเพื่อเสริมดวง ต่อมา นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้พาลุงพลกับป้าแต๋นมาไหว้พระขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลจากองค์หลวงพ่อรุ่งองค์ใหญ่ ที่เลือกหลวงพ่อรุ่ง เพราะมีบ้านอยู่แถวนี้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาการทำคดีที่ใหญ่ๆ สำคัญๆ ทุกคดี จะพาลูกความมาไหว้หลวงพ่อรุ่งแล้วประสบความสำเร็จทุกคดี

ส่วนเรื่องของคดีนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีความหนักใจแต่อย่างใดทั้งสิ้น รู้สึกสบายใจที่ได้ทำบุญ ก่อนเดินทางต่อไปที่รัฐสภา เพื่อเข้าพบกับนายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ดังเพราะลุงพลดับเพราะลุงพล ทนายรณรงค์ เชื่อที่ช่องยูทูบอัมรินทร์ โดนแฮกเพราะเสนอข่าวลุงพล
• แม่น้องชมพู่ เปิดใจ ลุงพลได้ประกันตัว วอนตำรวจช่วยคุ้มครอง
• ศาลฯมุกดาหาร ให้ประกันตัวลุงพล!! ถ้าไม่ทำตามข้อปฏิบัติ จะถูกเพิกถอนการประกันตัว