เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รายการ โหนกระแส วันที่ 2 มิถุนายน 2564 สัมภาษณ์ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ ลุงพล ไชย์พล วิภา คดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ จากชาวบ้านธรรมดา กลายเป็นคนดัง และกำลังกลับไปสู่ผู้ต้องหา

ก่อนไปพูดเรื่องลุงพล ลุงพลถูกออกหมายจับ พี่เองก็ถูกออกหมายจับเหมือนกัน แล้วมานั่งตรงนี้ได้ยังไง ?

             อัจฉริยะ :  ที่เราถูกออกหมายจับ เพราะมีคนทำพยานหลักฐานเท็จ กลั่นแกล้งผมให้ได้รับโทษทางอาญา มีการอ้างว่าบ้านของผมได้มีการรื้อถอนไปแล้ว ผมอยู่นี่ตั้งแต่ปี 2553 ตามสำเนาทะเบียนบ้านเลย นี่คือบิลค่าไฟที่มีการจ่ายทุกเดือน ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนสำโรงใต้ให้ไปสอบเทศบาล แต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนสำโรงใต้ไปสอบลุงคนหนึ่งอายุ 70 ปี แล้วบอกว่าบ้านผมไม่รู้อยู่ที่ไหน รื้อถอนไปแล้ว ทำให้พนักงานสอบสวนบอกว่าไม่สามารถส่งหมายเรียกให้ผมได้ 2 ครั้ง แล้วไปขอศาลออกหมายจับ
             แต่พี่หนุ่มครับ หมายเรียกให้ผมไปพบวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ตอน 10 โมง ไปออกหมายจับวันที่ 31 พฤษภาคม ถามว่ายังไม่ถึงวันที่ 4 เลย ถ้าผมไม่ไปวันที่ 4 สิ แล้วออกหมายจับผมวันที่ 5 อันนี้โอเค พนักงานสอบสวนทำถูกต้อง แต่นี่วันที่ 4 ยังไม่ถึงเลย แล้วไปออกหมายจับผมวันที่ 31 มีใบสั่งหรือเปล่า แล้ววันที่ 25 พฤษภาคม ผมก็ส่งหนังสือไปถึงพนักงานสอบสวนอยุธยา ขอความเป็นธรรม และให้อันนี้เป็นหนึ่งในคำให้การ คุณบอกว่าคุณส่งหมายเรียกผมไม่ได้ นี่เป็นเอกสารที่หน่วยงานราชการ ไม่ว่าจะสภา ศาล อะไรก็แล้วแต่ ส่งให้ผมที่บ้านเลขที่ 182/1 หมู่ 7
ลุงพล

ส่งไปมีบ้านนี้อยู่ แล้วทำไมเขาบอกบ้านรื้อไปแล้ว ?

             อัจฉริยะ : ไปสอบคนแก่อายุ 70 แล้วคนแก่บอกว่าไม่เคยพูดว่าบ้านรื้อถอนไปแล้ว เพราะเขาไม่รู้จักผม แล้วนี่เป็นคำฟ้อง เป็นหมายศาล ศาลอยุธยา 3-4 คดี ศาลอื่นด้วย ส่งมาที่ 182/1 ทั้งนั้นเลย ผมถามว่าคุณบอกว่าคุณส่งหมายเรียกไม่ได้ ก็ออกหมายจับผม ผมถามว่าขนาดผมเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคนสาธารณะ พนักงานสอบสวนติดต่อทุกวัน ผู้กำกับ คุยกันทุกวัน แต่คุณไปขอศาลออกหมายจับเพราะไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เป็นคนเถื่อน คิดดูว่าแล้วมาทำหลักฐานเท็จกัน

เดี๋ยวเขาก็ฟ้องเอาหรอก ?

             อัจฉริยะ : เดี๋ยวผมฟ้องเขาอยู่แล้ว ผมเป็นคนเดียวในประเทศไทย ที่คดีนี้ในอยุธยา ตั้งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีผม 10 คน ตั้งแต่ระดับรองผู้การจนถึงระดับ พ.ต.ท. คิดดูดิ คดีเล็กน้อย แต่กลายเป็นว่าผมถูกตั้งกรรมการ 10 คนดำเนินคดีผม ผมจะฟ้องพนักงานสอบสวนกับคนสร้างหลักฐานเท็จว่าบ้านรื้อไปแล้ว วันนั้นผมถูกใส่กุญแจมือนะ ตำรวจได้เงินแสนหนึ่ง มีคนสนับสนุนสปอนเซอร์ว่าถ้าจับอัจฉริยะ ใส่กุญแจมือได้ มีภาพถ่าย 1 แสน ไม่ได้กินผมหรอก นี่ขอให้ประชาชนเข้าใจตรงนี้ว่านี่คือการกลั่นแกล้ง เดี๋ยวการสู้คดีก็ว่ากันไป

อันนี้ชี้แจงว่าการที่ตำรวจออกหมายจับเพราะบอกว่าบ้านรื้อไปแล้ว เขายังไม่ได้รื้อ พอรื้อไปแล้วกลายเป็นคนเถื่อน ?

             อัจฉริยะ : ผมถามว่าคุณโทร. หาผมได้ทุกวัน พนักงานสอบสวน ตำรวจ ผู้การก็โทร. หาผมทุกวัน

ลุงพล

ออกจากบ้านไป สตช. เหมือนใครบางคนหรือเปล่า ?

             อัจฉริยะ : ไม่มี ผมไปนั่งกินกาแฟชิล ๆ ที่ห้องผู้กำกับเลย เพียงแต่เขาไม่ได้มีภาพใส่กุญแจมือ เพียงแต่มาอธิบายให้ฟังว่าวันนี้เราถูกกลั่นแกล้ง

เรื่องซีรีส์บ้านกกกอก ?

             อัจฉริยะ : เมื่อเช้าเราใช้ยุทธการฟ้าสาง เด็ดปีกวังพญานาค เรื่องนี้จริง ๆ เป้าหมายเราต้องทำกันตั้งแต่เดือนที่ผมบอกคือกุมภาพันธ์ทำไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่

จะบอกว่าเขาจะจับลุงพลตั้งแต่ก่อนปีใหม่เหรอ แล้วทำไมไม่จับ ?

             อัจฉริยะ : มันจับไม่ได้ เขากำลังตรวจเส้นผมอยู่ เส้นผม 3 เส้น

มันมีอะไรที่กล่าวหาเขาได้ว่าเขาเป็นคนทำ ?

             อัจฉริยะ : เปิดคลิปแรกเลย วันที่เจอศพ เป็นคลิปที่เรามองครั้งแรก เรารู้เลยว่าคนนี้คือผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย เพราะร้องไห้ยังกะควายถูกเชือดแต่ไม่มีน้ำตาสักแอะ แล้วรู้ได้ไงว่าเด็กอดข้าว แล้วรู้ได้ยังไงว่าเด็กขึ้นเขา
ลุงพล


ประเด็นสำคัญตรงจุดที่เขาบอกว่าหลานไปอยู่ข้างบน มีคนเอาไปปล่อยให้อดข้าวตาย บอกว่าให้ดักเลย ผู้ร้ายน่าจะไหวตัวทัน บอกว่ามีคนลักพามา มีคนหายจากหมู่บ้านคนหนึ่ง เป็นชายอายุ 30 กว่า เขาคาดว่าเขาน่าจะหมดอาหารให้กินแล้ว ทำให้หลานเขาตาย เขาร้องไห้ไม่มีน้ำตา แล้วยังไง ?

             อัจฉริยะ : ร้องไห้เหมือนควายถูกเชือดแต่ไม่มีน้ำตา สิ่งที่เราสงสัย ส่งคนไปฝังตัวเป็นยูทูบเบอร์ หลังจากดูคลิปนี้เรามั่นใจว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด เพราะน้องชมพู่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน แล้วเป็นเด็กที่หมู่บ้านนี้ไม่มีใครรู้จัก แล้วไม่มีใครรู้จักภูเขาภูเหล็กไฟ ในประเทศไทยถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่กกกอกเขาไม่รู้จัก แล้วชมพู่มีนิสัยแปลกอย่าง ถ้าไม่ใช่คนสนิทจริงจะไม่ให้อุ้มเลย ภาพคลิปวิดีโอเมื่อกี้ เราเห็นตั้งแต่วันแรกที่ช่อง 3 เอามาออก เราก็จับตามองอยู่แล้ว และคิดว่ามันน่าจะผิดปกติ เริ่มทำการสืบสวนสอบสวนทางลับ โดยส่งสายลับเข้าไปร่วมกับทางทีมตำรววจ ก็ดูมาโดยตลอด มันมีเรื่องที่เขาอ้างว่ามีคนโทร. ไปบอกเขาว่าหลานหาย ทั้งที่ ๆ บ้านมีโทรศัพท์เครื่องเดียว แล้วบอกโทรศัพท์ไปหาเขา และโทรศัพท์มี 2 ซิม โทรศัพท์อยู่ที่เมียแล้ว แล้วเขาเอามือถือไหนมารับ

             คำพูดคำหนึ่งของลุงพล ที่บอกว่าเอาหลานไปอดอาหารตายอยู่ข้างบน แต่ไปดูคลิปนี้ วันที่ผมได้สัมภาษณ์ลุงพลคนแรก ครั้งแรกที่เขาได้ออกทีวี และภาพบรรยากาศสัมภาษณ์ลุงพลวันที่ 18 พฤษภาคม ปี 2563 ผ่านไปไม่กี่วัน น้องหายวันที่ 11 พฤษภาคม เจอศพน้องวันที่ 14 วันที่ 18 ลุงพลพาน้องมาชันสูตรครั้งที่สอง ที่กรุงเทพฯ วันนั้นผลออกมาว่ามีร่องรอยบาดแผลที่อวัยวะเพศ ลุงพลถึงกับร้องไห้กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ผมก็ตกใจว่าการที่แจ้งไปแบบนั้นไม่ดีอยู่แล้ว ผมก็ถามว่าลุงพลร้องทำไม เขาบอกว่าเขาร้องไห้ดีใจ เขาปีติ เพราะเขามั่นใจว่าน้องถูกข่มขืน เพราะเขาบอกว่าอวัยวะเพศช้ำมาก อยากให้สังเกตอย่างหนึ่งว่าเขาพูดไม่เหมือนกัน
ลุงพล

วันที่เจอน้องชมพู่ในวันที่ 14 เขาบอกว่ามีคนร้ายวิ่งหนีไป ให้ตำรวจไปดักรอเลย มีคนในหมู่บ้านคนหนึ่งเอาชมพู่ขึ้นไปแล้วให้อดอาหารจนตาย ไม่ได้พูดถึงเรื่องการข่มขืน ทั้งที่สภาพศพ เด็กนอนอยู่ในสภาพขาผิดรูป อ้าออก เสื้อผ้าไม่มี สิ่งแรกถ้าคนเห็นภาพนั้น จะพูดหรือบรรยายออกมา แน่นอนต้องนึกถึงการข่มขืนก่อนเลย แต่ลุงพลไม่ได้พูดถึงการข่มขืน แต่พูดลักษณะว่าเด็กอดอาหารจนตาย แต่ผ่านไปแค่ 4 วัน มาสัมภาษณ์กับผม ลุงพลบอกว่ารู้สึกดีใจที่ศพของน้องมีร่องรอยการข่มขืน มันคืออะไร ?

             อัจฉริยะ : จริง ๆ เรามีคลิปเป็นร้อยกว่าคลิป ที่เก็บคำให้สัมภาษณ์ลุงพลผ่านยูทูบเบอร์ ผ่านรายการต่าง ๆ ก็ดี เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น และไม่เคยพูดเหมือนกันสักครั้งหนึ่ง อันนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่เราเชื่อมั่นว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยมาโดยตลอด พูดตรง ๆ นะ ถ้าไม่มีสื่อไปปั้นจนเขาเป็นซูเปอร์สตาร์จนได้เป็นดาราดัง ผมบอกได้เลยว่าคดีนี้ปิดตั้งนานแล้ว สมมตินาย ก. ไปสอบปากคำกับตำรวจ พอออกมาสื่อเอาไมค์ไปจ่อปาก โดยมีนายไชย์พลไปควบคุมกำกับ ทำให้สิ่งที่พยานปากนี้ให้การ มันก็ถือว่าไม่อยู่กับร่องกับรอย ถ้าภาษากฎหมาย ทำให้ตำรวจปวดหัวกับคดีนี้เป็นอย่างมาก เพราะมีการดันดาราไง ทำให้การทำคดีมันยาก ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีที่มีวัตถุพยานคือเส้นผมน้องชมพู่ และเส้นผมอีกเส้นที่ติดอยู่ที่กางเกงน้องชมพู่ในวันที่เกิดเหตุ

ลุงพล

ทำไมตอนนั้นตำรวจไม่เปิดออกมา ?

             อัจฉริยะ : มันเป็นการใช้เครื่องมือพิเศษในการทดสอบเส้นผม ซึ่งในเมืองไทยมันต้องใช้เวลา เพื่อประกอบในการต่อจิ๊กซอว์ที่คุณหมอบอกว่าทำยังไงก็ได้ ต้องให้ทุกอย่างแมตซ์ชิ่งกัน

แม่สาวิตรี แม่ชมพู่ อยู่ในสาย วันนี้เป็นยังไงบ้าง หมายจับเป็นลุงพล ผิดคาดไหม ?

             สาวิตรี : ไม่ผิดนะ ตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรก จริง ๆ แล้วความรู้สึกแม่ก็ตื่นเต้น แต่อยากให้คนในสังคมรู้สึกมากกว่า ว่าสิ่งที่แม่พูดมันยืนยันแล้ว ฟ้องด้วยภาพที่เห็นว่าเป็นยังไง ไม่มีใครรู้จักเขาเหมือนเราหรอก

เขาเป็นคนยังไง ?

             สาวิตรี : จากหลายคนที่กล่าวหาว่าแม่ฆ่าลูก คิดว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนดีอย่างนั้นอย่างนี้ สิ่งที่เขาทำก็เห็นกันอยู่ว่าเขาก้าวร้าว สังคมอาจไม่เห็น ไม่ได้สัมผัสเหมือนกับเรา ทำไมแม่ถึงสงสัยเขา เพราะเราคลุกคลีกับเขามากกว่าคนอื่นที่อยู่ภายนอก ที่ไม่ใช่คนกกกอก

แม่กำลังจะไปไหน ?

             สาวิตรี : จะไปที่ศาลค่ะ ไปยื่นคัดค้านการประกันตัวค่ะ เพราะเขามีพฤติกรรมก้าวร้าว คุกคามพยาน ทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัยค่ะ
ลุงพล

แม่มีสิทธิ์ ?

             อัจฉริยะ : นี่คือสิ่งที่เราคุยกันอยู่แล้ว ว่าวันนี้คัดค้านประกันตัว  พรุ่งนี้ผมเดินทางไปมุกดาหารไปพบแม่น้องชมพู่ วันศุกร์จะค้านการประกันตัวที่ศาลด้วย

แม่คิดว่าน่าจะมีบุคคลอื่นอีกไหม นอกเหนือจากลุงพล ?

             สาวิตรี : ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องคนอื่น ก็ดูตามตำรวจว่ามีอะไรเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง

เห็นว่าลุงพล เป็นคนอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย ชอบอาละวาด ยกโต๊ะหินทุ่มน้าแตน คนในกกกอกกลัวเขาหมด ?

             สาวิตรี : เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะ ไม่เชิงกลัวแต่ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย

ตัวลุงพลเองเวลาใครไปพูดให้การทำให้ตัวเขาเสียประโยชน์ เขาจะตามไปอาละวาด ตามราวีตลอดเวลาถูกไหม ?

             สาวิตรี : ประมาณนั้นค่ะ
ลุงพล

สำหรับคนที่เขาเคยต่อว่าแม่ตลอดเวลา หาว่าแม่ทำร้ายลูก เอาลูกไปปล่อยไว้ แม่ยังไง ?

             สาวิตรี : แม่ว่าหลายคนคงกลับมามองแม่ใหม่อีกครั้งค่ะ

             อัจฉริยะ : ผมเป็นคนบอกแม่น้องตั้งแต่แรกว่าคนร้ายคือคนนี้ ไปทุกครั้งก็บอกทุกครั้ง และบอกว่าเส้นผมที่ติดที่กางเกงน้องชมพู่ เป็นเส้นผมของเมียไอ้คนที่ถูกจับ ไม่อยากเอ่ยชื่อ

คือป้าแต๋น ?

             อัจฉริยะ : เส้นผมป้าแต๋นอยู่ที่กางเกงน้องชมพู่ในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งป้าแต๋นไม่ได้ขึ้นเขา แล้วเส้นผมไปอยู่ที่ชมพู่ได้ยังไง เพราะเขาบอกเขาไม่เจอชมพู่เลยในวันเกิดเหตุ แต่เส้นผมป้าแต๋นไปอยู่ที่กางเกงน้องชมพู่ในวันเกิดเหตุบนเขาได้ยังไง

นี่คือหนึ่งในสามเส้นที่ตำรวจกล่าวอ้าง ?

             อัจฉริยะ : ไม่ใช่ เส้นนี้เป็นเส้นต่างหาก เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง เรารู้อยู่แล้ว ส่วน 3 เส้นโดนมีดหั่น ดีเอ็นเอตรงกับนายไชย์พล เดี๋ยวรอดูเขาแถลง ผมลงพื้นที่ตลอด เรารู้ตั้งนานแล้ว แต่ปัญหาคือการตรวจเส้นผมมันเป็นรากผม ที่ต้องเอาให้ชัวร์
ลุงพล

ตรวจดีเอ็นเอต้องไปทั้งเส้น แต่นี่เป็นรอยตัด พอรอยตัดมันตรวจดีเอ็นเอไม่ได้ ?

             อัจฉริยะ : ใช่ ต้องเอามาเทียบเส้นกัน ใช้ระบบนึงซึ่งคือไมโตคอนเดรีย เป็นการฉายแสง

วันนี้ถือว่า end game ปิดฉากคดีน้องชมพู่ที่บ้านกกกอก จากคนดัง สู่ผู้ต้องหา กรณีนี้ คิดว่ายังไง ทำไมทนายตั้มมาเล่นคดีนี้ แล้วพี่ก็มายุ่งคดีนี้ เป็นเรื่องคนสองคนที่เป็นปรปักษ์กันหรือเปล่า ?

             อัจฉริยะ : ไม่ใช่ครับ เราทำคดีมาตั้งแต่แรกแล้ว เราลงพื้นที่มานานแล้ว เราเป็นทีมทนายให้แม่น้องชมพู่ในคดีนี้ ทีนี้เขาเพิ่งมาทีหลัง ที่อ้างเงื่อนไข 3 ข้อ ก็รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องเอาอยู่แล้ว โดยนิสัยเขา เขาต้องการเอาชนะผมอยู่แล้ว โดยไม่คำนึงว่าผู้สูญเสียคือใคร แต่ผมอยู่กับผู้สูญเสียอยู่แล้วทุกคดี ไม่ว่าคดีน้องหญิง คดีเอมี่ ผมดำเนินคดีกับไชย์พลเรื่องบุกรุกป่าสงวนและหลาย ๆ คดี

ลุงพล

พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนง โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ในสาย วันนี้วุ่นวายไปหมดที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้มอบตัวหรือจับ ?

            พล.ต.ต. ยิ่งยศ : เป็นการจับกุมตัวตามหมายครับ

ไม่ใช่มอบตัว ?

            พล.ต.ต. ยิ่งยศ : เน้นอีกทีว่าเป็นการจับกุมตัวตามหมาย การมอบตัวต้องไปที่ทำการของพนักงานหรือที่ตำรวจมีอำนาจสอบสวน แต่นี่การปฏิบัติของฝ่ายสอบสวนเป็นการเข้าควบคุมตัวตามหมายครับ

ยืนยันว่าจับกุมตัว ไม่ได้มาที่นี่เพื่อมอบตัว กรณีหลักฐานแน่นหนา ?

            พล.ต.ต. ยิ่งยศ : คงต้องแน่นหนา เพราะการที่ศาลออกหมายจับได้ การรวบรวมพยานหลักฐาน รวบรวมพยานแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งเราทำมานาน โดยเฉพาะพยานนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อมบุคคลต่าง ๆ แน่นหนาพอสมควร เป็นที่มาการออกหมายวันนี้ครับ

ถ้าไปสู้กันบนชั้นศาล นอกจากขน 3 เส้น มีอย่างอื่นอีกไหม ?

            พล.ต.ต. ยิ่งยศ : คงต้องว่ากันตามหลักฐาน อยู่ในสำนวนแล้วการวิพากษ์ในทางสื่อก็ว่ากันไป แต่เราทำงานกันอย่างแข็งขันในรอบปีที่ผ่านมา การรวบรวมหลักฐานกรณีนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่มีอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ต้องใช้การรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อม บุคคล ต้องพิถีพิถัน ไม่งั้นเราคงไม่กล้าขอออกอนุมัติหมายจับครับ
ลุงพล

จะให้ประกันตัวไหม ?

            พล.ต.ต. ยิ่งยศ : เป็นดุลยพินิจพนักงานสอบสวน ท่าน ผบ.ตร. ก็แจ้งสื่อมวลชนไปแล้วว่าไม่ก้าวล่วงดุลยพินิจพนักงานสอบสวน จะให้ประกันหรือไม่สุดแล้วแต่ครับ

จะมีออกหมายจับใครเพิ่มอีกไหม ?

            พล.ต.ต. ยิ่งยศ : อยู่ที่การสอบสวน ถ้าเกี่ยวพันถึงใครก็ว่ากันไปตามนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนผู้ต้องหา

ทำไมการจับกุมครั้งนี้กินเวลาเป็นปีกว่า ๆ ?

            พล.ต.ต. ยิ่งยศ : อย่างที่เรียนให้ทราบ คดีนี้มันไม่มีหลักฐานทางเทคโนโลยีเหมือนคดีอื่นที่เกิดขึ้นในสังคมเมือง การรวบรวมพยานหลักฐาน พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ต้องพิถีพิถันให้ละเอียดรอบคอบพอสมควร ไม่เช่นนั้นแล้วเราคงไม่เอาผู้ต้องหามาลงโทษได้ ถ้าศาลสั่งไม่ฟ้องจะเป็นความไม่รอบคอบของพนักงานสอบสวน เราคงไม่เอาความเร็วเป็นตัวตั้ง เราเอาความละเอียดรอบคอบ สุดท้ายแล้วผู้ทำผิดต้องได้รับโทษครับ

ลุงพล

ผมถามทนายตั้มว่าวันนี้เป็นการจับกุมหรือมอบตัว ทนายตั้มบอกว่ามอบตัว แต่ทางท่านโฆษกยืนยันว่าจับกุมตัว เพราะเขาออกหมายจับที่กกตูม ถ้าจะมอบตัวต้องมอบที่โน่น ?

             อัจฉริยะ : เป็นทนายระดับประเทศแล้วโง่ขนาดนี้ไม่รู้จะพูดยังไง

เดี๋ยวเขาฟ้องอีก เขาบอกเขาไม่รู้เรื่อง เมื่อวานลุงพลไม่รู้ว่ามีการออกหมายจับ ?

             อัจฉริยะ : ผมมีหลักฐานเป็นไลน์กลุ่ม ทนายตั้มจะให้สัมภาษณ์ที่ไหน หน้าบ้านลุงพลครับ เจอกันที่มุกดาหารหรือสกลนครคะ เดี๋ยวว่ากันอีกที นักข่าวถามว่าจะไปสัมภาษณ์ที่ไหน เขาบอกหน้าบ้านลุงพล นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว อย่าใช้เหลี่ยมเกิน อย่าใช้วาทศิลป์ในการพูดให้ตัวเองดูหล่อ เพราะปกติก็ไม่หล่ออยู่แล้ว

จะบอกว่าทนายตั้มรู้อยู่แล้วว่ามีการออกหมายจับ ?

             อัจฉริยะ : เมื่อวานตอน 4-5 โมงเย็นไลฟ์อยู่ที่บ้าน และแอบออกทางหลังสวนยาง แล้วมาโผล่ที่กรุงเทพฯ ได้ไง แล้วตัวเองบอกว่าจะไปมุกดาหาร บอกนักข่าวแบบนั้นในไลน์กลุ่ม มีหลักฐาน เขารู้อยู่แล้ว อยู่ ๆ จะมา สตช. เขารู้อยู่แล้วว่ามาทำไม เพราะหัวหน้าสอบสวนอยู่ที่กกตูมครับ

ลุงพล

รศ. นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว. กรณีใช้วิธีการตรวจแบบไมโตคอนเดรีย มันคืออะไร ?

             นพ.วีระศักดิ์ : คือตรวจในกรณีเส้นผมที่ไม่มีรากผม เพราะรากผลจะมีเซลล์ที่มีนิวเครียสอยู่ ขณะเดียวกันในการตรวจจะบอกความเชื่อมโยงในสายของทางมารดา ซึ่งไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นคนนั้นคนนี้เลย

เอาไปประกอบใช้ในชั้นศาลได้ไหม ?

             นพ.วีระศักดิ์ : เราทำเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ๆ ได้ยินมาตลอด ผมเชื่อว่าการตรวจระบุว่าเป็นของใคร มีความเชื่อมโยงอย่างไร เป็นสิ่งสำคัญว่าการได้มาของเส้นขน ไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร เกี่ยวข้องคดียังไง ผู้ถูกระบุตัวกับตัวเส้นขน หรือเส้นผม เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดหรือไม่ เหล่านี้คือการรวบรวมหลักฐานมาเป็นปีกว่าจะสรุปถึงวันนี้ผมก็เชื่อว่า ถ้าถามว่าโยงได้หรือไม่ ต้องโยงได้ครับ ไม่งั้นคงออกหมายจับไม่ได้

วันนั้นอาจารย์นั่งเผชิญหน้าลุงพล แล้วลุงพลร้องห่มร้องไห้ตอนบอกว่ามีร่องรอยบาดแผลที่อวัยวะเพศ คิดไหมว่าหวยจะออกที่ลุงพล ลุงพลจะเป็นผู้ต้องหาในวันนี้ ?

             นพ.วีระศักดิ์ : ไม่ได้คิดจริง ๆ วันนั้นก็ตกใจที่เขาร้องไห้ แต่พอฟังคลิป ผมก็เกิดข้อสงสัยว่าทำไมมันคนละอารมณ์ได้ขนาดนั้น แต่ในวันนั้นไม่ได้คิดจริง ๆ

             อัจฉริยะ : ถ้ามีเวลาให้จะลากไส้ให้เห็นเลย ว่าหมอปลาเป็นยังไง ที่ไปการันตี
ลุงพล

อยากฝากอะไรถึงลุงพล ?

             อัจฉริยะ : 144 คดีไม่เคยรอลงอาญา ยกฟ้องหมด มันโง่ไง มันคิดว่ามันฉลาดมาโดยตลอด แต่ลืมไปว่าที่ดันดาราเป็นเพราะใคร แล้วที่มาเป็นผู้ต้องหาเพราะความฉลาดของมัน

ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์