ใกล้จะถึงบทสรุปแล้วสำหรับคดีน้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ถูกพบเป็นศพเปลือยบนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ซึ่งระยะเวลายืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ แต่ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าขณะนี้รู้ตัวคนร้ายแล้ว และเตรียมออกหมายจับเร็ว ๆ นี้นั้น
เมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม 2564) เดลินิวส์ออนไลน์ เปิดเผยบันทึก 4 หน้ากระดาษของนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ซึ่งเจ้าตัวได้มีการเขียนบันทึกไว้ภายหลังการเสียชีวิตของลูกสาว 4 เดือน โดยสาเหตุที่ลงมือเขียนบันทึก แทนการพิมพ์ลงโซเชียล เนื่องจากช่วงนั้นถูกกระแสดราม่าโจมตีอย่างหนัก
สำหรับข้อความบนบันทึกหน้าที่ 1 มีรายละเอียดดังนี้…
ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งลูกสาวคนเล็กถูกพรากไปจากอก ด้วยความงุนงงของมนุษย์ทั้งโลกรวมถึงข้าพเจ้าด้วย จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ที่ไม่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ของน้อง ขณะที่ข้าพเจ้านั่งเขียนบันทึกอยู่นี้ เป็นเวลา 2 ทุ่ม 15 นาที ปกติเวลานี้น้องจะขึ้นนอนชั้นบนพร้อมกับพี่สาว พ่อแม่จะนั่งเล่นใต้ถุนบ้าน เสียงใส ๆ ดังมาจากบนบ้าน “แม่ แม่จ๋า ขึ้นเทิง ขึ้นเทิง (เรียกพ่อแม่ขึ้นบนบ้าน) มานอนนำน้อง”
ไม่ได้ยินเสียงมานานแล้ว ยังคิดถึงลูกเสมอ แก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ไม่ใช่สิเธอเป็นหัวใจของครอบครัวเรา ชมพู่แม่คิดถึงเจ้าหนูน้อย นาทีนี้ข้าพเจ้าไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือได้อีก เพราะม่านตาพร่ามัวมองไม่เห็นเส้นบรรทัด น้ำใส ๆ กำลังรวมตัวกันไหลออกมา
บันทึกหน้าที่ 2
ไม่มีรักใดยิ่งใหญ่เท่ารักจากพ่อแม่ ไม่มีรักแท้มั่นคงได้เท่าสายเลือด ไม่มีความผูกพันใดไม่ใช้เวลา 3 ปีที่ร่วมทางกันมา มันมีค่าเกินกว่าจะบอกใคร
บันทึกหน้าที่ 3
ฝากไปให้ แม้ไม่รู้ลูกได้รับหรือเปล่า ฝากไปให้เพื่อผ่อนคลายความโศกเศร้า ฝากไปให้แทนความรักในใจเรา
บันทึกหน้าที่ 4
ลงวันที่ 10 กันยายน 2563 ใกล้สิ้นสุดแล้วจริงหรือ ข้าพเจ้าขอภาวนาให้สิ่งที่ได้รับรู้ในวันนี้เป็นความจริงด้วยเถิด อยากพ้นจากความทุกข์นี้เสียที วิกฤตชีวิตครั้งนี้หนักหนายิ่งหนัก มีเพียงคำสอนของหลักพระพุทธศาสนาเท่านั้น ที่พอพยุงสติข้าพเจ้าให้มีสมาธิ และความอดทน
ข้าพเจ้าสัญญากับหัวใจตัวเองแล้วว่า ไม่ว่าไอ้สัตว์นรกตนใดก็ตาม ที่มันบังอาจมาทำให้ลูกสาวตัวน้อยของข้าพเจ้า มีแม้เพียงรอยขีดข่วน ข้าพเจ้าไม่มีวันอโหสิกรรมให้เด็ดขาด ซ้ำยังขอสาปแช่งให้ได้รับเคราะห์กรรม ถูกเจ้ากรรมนายเวรตามล่าอาฆาต เอาชีวิตทุกภพชาติไป