29 พฤษภาคม 2564 จากกรณีที่ผู้ปกครองเณรวัย 11 ปี ในจังหวัดอุดรธานี ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยว่า ลูกหลานที่ไปบวชเณรภาคฤดูร้อนแล้วไม่ปลอดภัย โดนพระรูปหนึ่งทำอนาจาร พร้อมโพสต์รูปภาพและคลิปวิดีโอ ขณะที่คณะกรรมการวัด, พระสงฆ์, สามเณร, เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านที่กำลังนั่งสอบถามข้อเท็จจริงภายในศาลาการเปรียญของวัด
ล่าสุด หลังตกเป็นข่าวพระรูปดังกล่าวคือ พระธวัช จันทโสภโน หรือหลวงพี่ธร อายุ 40 ปี ได้เดินทางจากจังหวัดอุดรธานี มาจำวัดที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัด โดยพระธวัช ได้ออกมาระบุ ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า การออกมาร้องเรียนของผู้ปกครองของเณร เป็นเรื่องเข้าใจผิดปฏิเสธว่าไม่เป็นเรื่องจริง พร้อมเล่าให้ฟังว่าอาตมาได้รับมอบหมายจากผู้ปกครองให้เป็นพระพี่เลี้ยงของเณร คอยดูแลเอาใจใส่ เณรที่มาบวชภาคฤดูร้อนจำนวน 3 คน ซึ่งอาตมาจะต้องคอยดูแลเรื่องระเบียบ ตั้งแต่การอาบน้ำ การกิน การแต่งกายทุกอย่าง
ยืนยันว่าไม่ได้มีการทำอนาจารเณรตามที่ถูกกล่าวหา เป็นเพียงการหยอกล้อเล่นตามผู้ใหญ่หยอกเด็ก หรืออาจารย์กับศิษย์เท่านั้น ไม่รู้ว่าเด็กไปสื่อสารแบบไหนให้ผู้ปกครองเกิดความเข้าใจผิด ทั้งที่ตอนทำหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยงก็ดูแลเณรเป็นอย่างดี ทั้งลงทุนเงินส่วนตัวเกือบ 2,000 บาท ซื้อข้าวของหรือโอวันตินมาไว้ให้เด็กที่มาบวชภาคฤดูร้อนกินด้วยซ้ำ ก็เสียใจที่ถูกกล่าวหาและอยากจะขอความเป็นธรรมด้วย เชื่อว่าน่าจะโดนกลั่นแกล้งมากกว่า เนื่องจากในวัดดังกล่าวมีการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย น่าจะมีพระบางรูปที่ไม่พอใจและอยากให้อาตมาออกจากวัด จึงเชื่อว่ามีผู้ไม่หวังดีคอยยุยงผู้ปกครองเณรให้มาร้องเรียน ส่วนที่เดินทางมาจำวัดที่จังหวัดบุรีรัมย์ในครั้งนี้ ไม่ได้หลบหนีแต่มีพระผู้ใหญ่ขอร้องให้ออกมาจากวัดที่อุดรธานีก่อน เพื่อลดความขัดแย้ง แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจก็พร้อมจะเดินทางกลับไปเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้น อยากขอความเห็นใจและความเป็นธรรมด้วย แต่หากมีหลักฐานว่ากระทำผิดจริงก็พร้อมจะสึก
ไปต่อไม่ไหวสวนเสือศรีราชา ถึงคราวต้องอำลา