กลายเป็นกระแส ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ มหากาพย์กันทีเดียว และก็มีการติดแฮชแท็ก #จนทิพย์ วิพากษ์วิจารณ์ข่าว “น้องโวลต์” นักเรียนหญิง อายุ 18 ปี ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคถึง 3.7 ล้านบาท เพราะไม่เชื่อว่านักเรียนหญิงคนดังกล่าวฐานะยากจนจริงตามที่กล่าวอ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับผิด #จนทิพย์ อีกรอบ คุณยายใส่ทอง หิ้วกระเป๋าหรู!! #ข่าวชาวบ้าน
ชาวเน็ตจับผิด “น้องโวลต์” จนทิพย์!? หลังได้รับบริจากเกือบ 3 ล้าน
ต่อมา คณะนายอำเภอได้ลงเยี่ยมบ้านของน้องโวลต์อีกครั้งหลังเกิดประเด็นดราม่าขึ้น โดยมีการทำข้อตกลงในการตั้งคณะกรรมการดูแลเงินบริจาค และจะมีผู้คอยดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเรียน เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการบริจาค
ขณะที่ น้องโวลต์ ซึ่งอยู่ในอาการเศร้า ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา มีหญิงคนหนึ่งคอยปลอบและกอดให้กำลังใจ แต่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นแม่ของน้องโวลต์ ทั้งยังมีการสวมสร้อยทองคำ และถือกระเป๋าหรู
ล่าสุด ได้หญิงสาวคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์ชี้แจงประเด็นดังกล่าว
“คนนี้ที่กอดน้องคือคุณยายของแพรเอง คุณยายเป็นนายจ้างทั้งพ่อเเละแม่ของน้อง เค้าเชิญไปเพื่อให้ไปยืนยันว่ายายเป็นผู้อนุเคราะห์ครอบครัวนี้ เวลาครอบครัวน้องขัดสนเรื่องเงินก็จะมาขอให้ครอบครัวเราช่วยตลอด ยายไม่ใช่คุณครูนะคะ ส่วนเรื่องกระเป๋า ของแท้แน่นอนค่ะ ไม่ใช่ของปลอม
ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีรสนิยมแต่ทำไมถึงแต่งตัวเเบบนั้น เนื่องจากทางนั้นไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะเชิญไป เค้ามาเชิญตอนเช้ามากๆ คุณยายเลยไม่ได้มีเวลาเตรียมตัว คว้าอะไรได้ก็คว้าไปกลัวคนอื่นจะรอค่ะ ตกใจเหมือนกันที่มีเรื่องแบบนี้ออกมา ขอบคุณที่อ่านค่ะ”
ล่าสุดวันที่ 13 พ.ค. 64 หนุ่ม กรรชัย ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดยระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มีบางส่วนสะท้อนมุมมองของสังคมปัจจุบันโดยยกย่องอยู่ไม่กี่อาชีพ หากสอบติดหมอแล้วแต่ไม่มีเงินเรียน สังคมก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ แต่ถ้าเด็กที่สอบติดคณะอื่นการขอให้คนอื่นช่วยอาจจะยาก และต้องไปกู้ กยศ. เอาเอง สังคมไทยควรปลูกฝังค่านิยมใหม่ว่า ทุกสาขาวิชามีคุณค่าไม่ต่างกัน ทุกคนล้วนมีความพยายามไม่ต่างกัน เด็กไม่อยากเป็นหมอไม่ใช่ว่าไม่เก่ง แต่อาจจะเก่ง และถนัดด้านอื่นมากกว่า ทุกวิชาชีพมีคุณค่าทั้งนั้น
