เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. วอชิงตันโพสต์ ของสหรัฐอเมริการายงานความคืบหน้ากรณี นายเดวิด ดับเบิลยู. โรมิง อายุ 52 ปี ถูกจับกุมหลังก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.แซลลี เคาฟ์มันน์-รุฟฟ์ กิ๊ก อายุ 64 ปี แล้วอำพรางคดีโดยจัดฉากว่ามีคนร้ายบุกรุกเข้ามายิงน.ส.เคาฟ์มันน์ในบ้านพักเสียชีวิต เหตุเกิดที่เมืองดันเนลลอน รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เดมอน แบ็กซลีย์ เขียนในสำนวนส่งศาลว่า เรื่องราวที่นายโรมิงเล่ามานั้นน่าสงสัยและมีพิรุธหลายจุด กระทั่งในวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่แบ็กซลีย์ได้รับเมสเสจทางโทรศัพท์มาสองรอบ เขียนว่า “ผมว่าท่าทางตำรวจจะมาจับผม” และว่า “ทำท่าว่าเขาจะมาจับแน่” อันเป็นข้อความมัดตัวเข้าไปอีก

นายโรมิงก่อเหตุเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ทำทีเข้าแจ้งตำรวจว่ามีคนร้ายบุกรุกบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจที่เกิดเหตุพบ น.ส.เคาฟ์มันน์ นอนแน่นิ่ง สภาพถูกปืนยิงศีรษะ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตที่นั่นเวลาต่อมา

นายโรมิงแสดงหลักฐานให้พนักงานสืบสวน เป็นเหล็กงัดที่อยู่ใกล้ประตูหน้าบ้าน และบุหรี่ที่ไหม้บางส่วน อ้างว่าวัตถุพยานทั้งสองชิ้นไม่ใช่ของตน ขณะที่พนักงานสืบสวนระบุว่า ประตููบ้านถูกงัดเปิดออก วงกบประตูพังเสียหาย และยังพบบุหรี่ ก้านเหล็กเสียบบุหรี่ตกอยู่หน้าบ้านและเศษผ้าในวงกบกรอบประตู ซึ่งนายโรมิงบอกว่า อาจเป็นเสื้อแจ็กเก็ตของคนร้าย

 

 

ชายคนนี้ยังให้ปากคำกับพนักงานสืบสวนในเวลานั้นว่า ขณะนอนหลับกับ น.ส.เคาฟ์ มันน์บนเตียงนอน มีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านและปลุกตนโดยใช้มือปิดปากตนไว้และสวมไฟฉายคาดหัว คว้าแขนทั้งสองข้างของคนร้ายและก็ได้ยินเสียงดัง

นายโรมิงอ้างว่าจับตัวคนร้ายขณะลุกขึ้นจากเตียงนอน ตนและคนร้ายได้ต่อสู้กันและล้มลงไปกับพื้นทางเดินในบ้านด้านนอกประตูเข้าห้องนอน คนร้ายถือปืนพกและผลักคนจนล้มหงายหลังลงไป เมื่อคนร้ายผลักตนก็ยิงปืนใส่จนตนล้มลงไปกับพื้นอีก อีกวันต่อมา นายโรมิงส่งข้อความโทรศัพท์มือถือไปหาภรรยาว่า มีคนร้ายบุกรุกที่บ้านและฆ่าน.ส.เคาฟ์มันน์-รุฟฟ์ โดยกังวลว่าจำรายละเอียดบางอย่างไม่ได้

แต่ภายหลังผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับบุหรี่ ก้านเหล็กเสียบบุหรี่ และเสื้อผ้าตรงกับของนายโรมิงทั้งหมด โดยพิสูจน์ได้ว่า รอยขาดของเสื้อแจ็กเก็ตมาจากการใช้กรรไกรตัด ส่วนวงกบประตูก็ดูตรงไม่มีรอยถูกงัด พนักงานสืบสวนจึงจับกุมนายโรมิง เมื่อวันที่ 12 ก.พ. และเจ้าตัวให้การรับสารภาพ

นายโรมิงให้การกับพนักงานสืบสวนในวันถูกจับกุมว่า ตนมีอาการหน้ามืดบ่อยครั้งและได้ยินเสียงดัง ตอนเช้าของวันเกิดเหตุ ตนอยู่ในสภาวะเหมือนวิญญาณออกจากร่างและเล่นมวยปล้ำกับตัวเองขณะยิงปืนไปถูกน.ส.เคาฟ์มันน์เสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่ตนจัดฉากคนร้ายบุกรุกบ้าน เพราะตนมีอาการหน้ามืด

 

 

แต่เจ้าหน้าที่ยังสงสัยให้คำพูดของผู้ต้องหา เพราะเมื่อเดือนม.ค. นายโรมิงอ้างว่า นอกจากลูกคนเดียวของน.ส.เคาฟ์มันน์แล้ว ตนเป็นผู้รับประโยชน์เพียงคนเดียวตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมของน.ส.เคาฟ์มันน์ จึงเป็นไปได้ว่าหวังทรัพย์ของผู้ตาย ขณะที่ น.ส.เคาฟ์มันน์มีบ้าน รถยนต์ และอสังหาริมาทรัพย์ ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์สภาพคล่องเป็นมูลค่ากว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 62 ล้านบาท

นายโรมิงถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาเเต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ปลอมแปลงหลักฐานโดยจัดฉากที่เกิดเหตุและรายงานเท็จต่อเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ถูกกักตัวในเรือนจำเทศมณฑลเรียนโดยคัดค้านการประกันตัว และจะถูกนำตัวขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 20 มีนาคมที่จะถึงนี้

 

Cr. ข่าวสด