กลายเป็นประเด็นร้อนทางออนไลน์ เมื่อชาวเน็ตได้เริ่มออกมาดันแฮชแท็ก #NoCPTPP อีกครั้ง พร้อมทั้งได้ออกมารณรงค์ให้ร่วมกันลงชื่อเพื่อคัดค้าน และต่อต้านการเข้าร่วม CPTPP ผ่านแฮชแท็กดังกล่าว
CPTPP คืออะไร?
CPTPP หรือ Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership คือ ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก โดยเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมในเรื่องการค้า การบริการ และการลงทุน เพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้ายไปสวีเดนกันเถอะ ! สถานทูตสวีเดน ออกมาชวนคนไทยไปอยู่สวีเดน พร้อมบอกแนบเหตุผล ที่ชวนคิดว่าสวีเดนอาจจะตอบโจทย์ของคุณ !
- สิระ ซัด พวกอยากย้ายประเทศ คงได้ย้ายไปอยู่เรือนจำแทน – สวีเดนไม่รับคนโง่
ทั้งในประเด็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลไกแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด11 ประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก เปรู ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และเวียดนาม
ข้อดี-ข้อเสียของ CPTPP
ในปี 2563 ทาง กระทรวงพาณิชย์ได้พยายามผลักดันให้ไทยเข้าร่วม CPTPP โดยกล่าวว่าการเข้าร่วมนั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออก ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และเสริมสร้างขีดความสามารถของสินค้า-บริการไทยไปสู่ระดับโลก พร้อมทั้งให้เหตุผลว่าหากเข้าร่วมช้าจะเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
หลังจากนั้นก็มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลและคัดค้านอย่างหนักถึงข้อเสียที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะผู้ที่ได้รับประโยชน์จริง ๆ นั้นก็คือเหล่านายทุน ในขณะที่ประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างหนักไม่ว่าจะเป็น การเปิดเสรีภาคบริการ เป็นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติจดสิทธิบัตรพันธุ์พืชไทย รวมไปถึงองค์กรเภสัชกรรมเสียสิทธิประโยชน์ในการจัดซื้อยาภาครัฐ
ทำให้เกิดเสียงการคัดค้านที่เกิดขึ้นอย่างหนัก รวมไปถึงคนฝากฝั่งรัฐบาลเองที่ไม่เห็นด้วยนั้น ทำให้ในตอนนั้นทางรัฐบาลยอมถอนเรื่องออกจากการประชุม ครม. ในเดือนเมษายน 2563
ประเด็น #NoCPTPP ล่าสุด
และเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือ FTA Watch ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีวาระลับเกี่ยวกับ CPTPP ซผ่านความเห็นชอบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงได้เลย ไม่มีการแถลงเป็นทางการ
ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเริ่มมีการติดแฮชแท็ก #NoCPTPP อีกครั้ง ทั้งยังมีการทำอินโฟกราฟิกหลายชิ้น เพื่อให้ประชาชนคนทั่วไป ได้ทราบถึงผลดี ผลเสีย ของ CPTPP อย่างง่าย ๆ รวมไปถึงการเผยแพร่คิวอาร์โค้ด ให้ร่วมลงลงชื่อคัดค้าน และมีการรณรงค์ให้ร่วมกันลงชื่อในแคมเปญ #NoCPTPP บนเว็บไซต์ change.org และการร่วมลงชื่อของกลุ่ม Greenpeace ซึ่งเหล่าดารา-คนดังหลายคนก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ยังไม่พบว่ามีวาระดังกล่าวผ่านการพิจารณา และหลังจากที่กลายเป็นประเด็นสุดร้อนแรงบนโลกออนไลน์ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า “ไม่มีการประชุมลับ และไม่มีการลงมติ เรื่องที่เข้ามาคือ ขอขยายระยะเวลาศึกษาเพิ่มอีก 50 วันเพื่อความรอบคอบ”
