เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ไขข้อสงสัย! สาเหตุที่ สถานทูตสหรัฐอเมริกา และสถานทูตต่าง ๆ ประจำ ราชอาณาจักรไทย ไม่ต้องแจ้งข้อมูลการฉีดวัคซีนให้รัฐบาลไทยทราบ

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 หลังจากมีประเด็นภาพจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นภาพของใบรับรองการฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์-บิออนเทค ที่ถูกฉีด ณ สถานทูตสหรัฐฯ ในราชอาณาจักรไทย ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก

เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการอนุมัติการใช้ วัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์-บิออนเทค จึงทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเกิดความสงสัยว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถฉีดในไทยได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตจำนวนหนึ่ง ได้เข้าแสดงความคิดเห็นให้คำตอบว่า เหตุใดสถานทูตสหรัฐฯ ใน ราชอาณาจักรไทย จึงสามารถได้รับวัคซีนไฟเซอร์-บิออนเทค ได้ แม้ว่ารัฐบาลไทยยังไม่อนุมัติวัคซีนตัวดังกล่าว

Twitter

โดยสรุปแล้ว ชาวเน็ตหลายคน แสดงความคิดเห็นที่อ้างอิงกับกฎหมายระหว่างประเทศ (อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต ค.ศ. 1961) ว่า การฉีดวัคซีนของบุคลากรสถานทูตนั้น คาดว่าเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องรออนุมัติวัคซีน เนื่องจากพื้นที่สถานทูต ถือเป็นความคุ้มกันทางกฎหมายประเภทหนึ่งที่มีให้แก่ผู้แทนทางทูต เอกสิทธิ์นี้เป็นการรับประกันว่าผู้แทนทูต จะอยู่พ้นจากการบังคับใช้กฎหมายและอำนาจศาลของประเทศผู้ให้ความคุ้มกัน หรือ “รัฐผู้รับ”

มติชน

โดยทั่วไปแล้ว ขอบเขตการคุ้มครองทางการทูตนั้น ได้แก่ การได้รับความคุ้มกันจากการถูกบุกรุก สถานที่ทางทูต เครื่องตกแต่ง และทรัพย์สินที่อยู่ในสถานที่นั้น ตลอดจนพาหนะของผู้แทนฯ ได้รับความคุ้มกันจากการถูกตรวจค้น บังคับคดี และอายัด

ตัวผู้แทนทางทูตตลอดจนทรัพย์สินของผู้แทนทางทูต ได้รับการยกเว้นภาษีส่วนกลางของรัฐผู้รับ (เช่น ภาษีเงินได้, ภาษีศุลกากร, ภาษีสรรพสามิต) สถานที่ของคณะผู้แทนฯ ได้รับการยกเว้นภาษีโรงเรือนและภาษีที่ดิน

กระดาษ เอกสารต่าง ๆ ของคณะผู้แทน จะถูกละเมิดมิได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด และเวลาใด รวมถึง หีบห่อสัมภาระส่วนตัวของผู้แทนทางทูตได้รับการยกเว้นจากการถูกตรวจตรา

การสื่อสารของคณะผู้แทนฯ ได้รับความคุ้มครองให้เป็นไปโดยเสรี มิอาจถูกปิดกั้น ตัวผู้แทนทางทูต ได้รับความคุ้มกันจากการถูกละเมิด ถูกจับกุม หรือถูกกักขัง ผู้แทนทางทูต ได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ ทั้งในทางอาญา ทางแพ่ง และทางปกครอง

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

ต่อมา นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ให้สัมภาษณ์ เนื่องจากมีผู้สื่อข่าวถามว่า หากทูตานุทูตแต่ละประเทศมีความประสงค์ให้ประเทศต้นทางส่งวัคซีนมาเพื่อฉีดในสถานทูตประจำประเทศไทย ทำได้หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า การส่งวัคซีนของแต่ละประเทศอยู่ภายใต้เอกสิทธิของการทูต และ สธ.จะไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้ เนื่องจากคณะทูตในสถานทูตแต่ละประเทศต่างก็มีเอกสิทธิตามหลักสากล

เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้มีรายงานว่าสถานทูตแต่ละประเทศในไทยเริ่มฉีดวัคซีนไปมากน้อยอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า เนื่องจากเป็นเอกสิทธิของสถานทูต ทาง สธ.จึงไม่อาจก้าวล่วงได้ และไม่ได้รับแจ้งหรือรับข้อมูลดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง