เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เกิดเหตุยายวัย 93 ปี ตกลงไปในบ่อน้ำลึกกว่า 12 เมตร ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ กู้ภัยมูลนิธิร่มโพธิ์เร่งช่วยเหลือ นำตัวขึ้นมาอย่างปลอดภัย ก่อนพาส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์
บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณหลังบ้านเป็นป่ากล้วย พบบ่อน้ำบาดาลความลึกมองลงไปแทบไม่เห็นก้นบ่อ บริเวณปากบ่อพบฝาปิดท่อที่ชำรุด ทราบชื่อยายวัย 93 ปีที่ตกลงไปในบ่อ คือ นางทองดี ผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว
โดย นางสุวรรณ อายุ 84 ปี เพื่อนบ้านที่บ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า นางทองดี ไม่มีลูก ส่วนสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว จึงนำลูกของน้องสาวชื่อ นายบัติ อายุประมาณ 35– 40 ปี มาเลี้ยงดูให้อยู่เป็นเพื่อน แต่ นายบัติ มักดื่มสุราเมาเป็นประจำ อาหารการกินก็มีหลานๆ และเพื่อนบ้านคอยนำไปให้
ก่อนเกิดเหตุช่วงคืนที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงของ นางทองดี ร้องขอความช่วยเหลือ ก็คิดว่า นางทองดี น่าจะป่วย จากนั้นเสียงก็เงียบไป กระทั่งช่วงสายของวันนี้ตนก็ยังได้ยินเสียงอีก จึงได้ให้ลูกสาวและเพื่อนบ้านเข้าไปดู ลูกสาวและเพื่อนบ้านหาจนทั่วบ้านก็ไม่พบ เมื่อได้ยินเสียงร้องจากข้างๆกำแพงอีก จึงเดินไปใกล้ๆ จึงบอกให้ลูกสาวเข้าไปดูก็พบว่า นางทองดี นอนขดอยู่ใต้บ่อน้ำ
ด้าน นายวีรยุทธ เพิ่มพูลทรัพย์ รองหัวหน้ากู้ภัยมูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ไปทำการช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบว่ามีหญิงชรานอนขดอยู่ก้นบ่อซึ่งลึกประมาณ 12 เมตร จึงได้ให้เจ้าหน้าที่โรงตัวลงไปช่วยเหลือพบว่าผู้บาดเจ็บมีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าและมีอาการอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ได้ใช้พัดลมเป่าลงไปในบ่อเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนจากนั้นรีบนำตัวขึ้นมา เนื่องจากปริมาณออกซิเจนมีน้อยอาจทำให้เสียชีวิตทั้งผู้บาดเจ็บและกู้ภัย เมื่อนำขึ้นมาแล้วจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์
ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว โชคดีที่ยายตกลงไปแล้วศีรษะไม่ฟาด อีกทั้งก้นบ่อยังเป็นดินโคลนหนาประมาณ 1 ฟุต จึงช่วยซับแรงกระแทก และบ่อดังกล่าวก็ไม่มีน้ำ