วันที่ 22 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.วรัญญา ศรีแสงทอง อายุ 30 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 211 / 5 หมู่บ้านชุติมา เฟส 2 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่าบุตรชายวัย 7 ขวบของตนเองถูกสุนัขจรจัด บุกเข้ากัดถึงในบ้าน มีบาดแผลที่ฝ่ามือข้างขวาจนเอ็นขาดและนิ้วโป้งหวิดขาด ก่อนพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ ซึ่งแพทย์ได้ทำการเย็บบาดแผลและต่อเอ็นที่ขาดให้ แต่ไม่ยืนยันว่าจะกลับมาใช้การได้เหมือนเดิมหรือไม่
จากพาลูกชายกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านยังพบว่าเจ้าสุนัขจรจัดตัวดังกล่าวยังเที่ยวนอนซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องรถของชาวบ้าน และเที่ยวไล่กัดชาวบ้านที่อยู่ในซอยเดียวกันอีกหลายคน แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จึงได้โทรไปแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาจับเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวออกไป แต่กลับถูกเมินเชยไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดำเนินการให้แต่อย่างใด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงสายของวานนี้ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ในวันนี้จึงได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.วรัญญา ก็ได้พบว่าสุนัขตัวดังกล่าวยังแอบนอนอยู่ใต้ท้องรถของชาวบ้านซึ่งจอดอยู่ตรงข้ามหน้าบ้านของ น.ส.วรัญญา เป็นสุนัขพันธ์ไทยเพศผู้ ตัวสีน้ำตาล อายุประมาณ 3-4 ปี โดยไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้และส่งเสียงขู่ตลอดเวลา และได้พบรอยเลือดยังหยดเป็นทางอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าบ้านจำนวนมาก
น.ส.วรัญญา ได้พาบุตรชายชื่อ ด.ช.อชิรวิชญ์ เหมรัชต์เรืองกุล อายุ 7 ขวบ ที่ถูกสุนัขตัวดังกล่าวกัดออกมาให้ดู พบว่าที่ข้อมือข้างขวาของน้อง อชิรวิชญ์ ถูกพันด้วยผ้าก๊อตพันแผลอยู่ น.ส.วรัญญา ได้เล่าว่า เมื่อช่วงสายของวานนี้ขณะที่ตนเก็บกวาดบ้านอยู่ด้านใน โดยปล่อยให้น้อง อชิรวิชญ์ ลูกชายเล่นกันอยู่ที่หน้าบ้านด้านในรั้วของบ้าน อยู่ ๆ เจ้าสุนัขตัวดังกล่าวซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของใคร ที่เห็นวิ่งตามรถเก็บขยะมาอาศัยอยู่ภายในซอยได้ประมาณ 2 วันได้วิ่งมุดช่องของรั้วซึ่งเป็นช่องโหว่อยู่เข้ามากัดที่ข้อมือของลูกชายตนที่กำลังเดินเล่นอยู่ที่หน้าบ้านจนเลือดสาด ตนเห็นดังกล่าวจึงได้เอาไม้มาไล่ตี เจ้าสุนัขตัวดังกล่าวจึงวิ่งออกไปหลบอยู่ใต้ท้องรถที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านและส่งเสียงตลอดเวลา ตนจึงได้รีบดูบาดแผลที่ข้อมือของลูกชายพบว่าเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลไม่หยุด จึงรีบพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แต่กลับไม่ได้รับการดูแลปล่อยให้นั่งรออยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ลูกตนก็ร้องไห้เนื่องจากเจ็บปวดที่บาดแผล ตนจึงตัดสินใจพาลูกชายมาหาหมอที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ โดยแพทย์ได้บอกว่าเส้นเอ็นนิ้วโป้งของน้องขาดแพทย์ได้ทำการเย็บบาดแผลให้ แต่ไม่รับรองว่าจะกลับมางานได้ดังเดิมหรือไม่ หลังจากที่พาน้องกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ได้พบว่าสุนัขตัวดังกล่าวยังแอบนอนอยู่ใต้ท้องรถ ยามใครเดินเข้าไปใกล้ก็ส่งเสียงขู่ตลอดเวลา บางครั้งก็วิ่งไล่กัดชาวบ้านที่อยู่ในซอย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองแพรกษาและปศุสัตว์จังหวัด เพื่อให้มาจับเจ้าสุนัขจรจัดตัวดังกล่าวออกไป แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดำเนินการให้ และในวันนี้ตนได้ร้องเรียนไปยังผู้สื่อข่าว ทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองแพรกษา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จึงรีบเข้ามาดำเนินการจับเจ้าสุนัขจรจัดตัวดังกล่าวไป โดยเป่ายาสลบใส่เจ้าสุนัขตัวดังกล่าว จนหมดสติก่อนที่จะนำตัวกลับไป