เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากลูกสาวได้ร้องเรียนว่า แม่สายบุญถูกหลอก หลังไปทำบุญกับพระรูปหนึ่งที่แต่งกายไม่เหมือนพระทั่วไป อ้างว่า สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงโรคโควิด-19 ได้ แถมยังกล่าวอ้างว่ามีอภินิหารต่างๆ จนแม่ถึงขั้นสบทบเงินทำบุญ และสร้างที่พักสงฆ์ภายในของตัวเองนั้น หลวงปู่พุทธะ สุริยะจักรวาลอ้างว่าตัวเองไม่ใช่พระ เพียงแต่ยึดหลักธรรมะเท่านั้น ล่าสุดมีหญิงอ้างว่าถูกชายปริศนาผู้ปฏิบัติธรรม ข่มขืนจนตั้งท้องแล้วนั้น

นางตุ๋น ทองร้อง อายุ 68 ปี ลูกศิษย์คนสนิทของหลวงปู่ เปิดเผยว่า ก่อนตนอยู่ที่กรุงเทพฯ ย้ายกลับมาเมื่อประมาณปี 2555-2556 ตนได้ยินว่ามีพระสงฆ์มาอยู่ที่ศาลาตนเลยตามไปกราบไหว้ และเริ่มแรกตนได้บริจาคเงินทำบุญแค่ 20 บาท นับตั้งแต่นั้นมาตนก็เคารพ และติดตามไปธุดงค์ตามสถานที่ต่าง ๆ เวลาไปธุดงค์มักจะไปปฏิบัติธรรมทั่วไป เช่น นั่งสมาธิ ขณะนั้นหลวงปู่จะนั่งอยู่บนผ้าเหลือง มีบาตรพระสงฆ์ และใส่ผ้าจีวรสีเหลืองเข้ม แต่ช่วงหลังมีคนขอผ้าจีวรไปบูชาก็เอาผ้าสีอื่นมาใส่

ทั้งนี้หลวงปู่ไม่เคยเรียกให้คนถวายของให้ แต่ทุกคนจะซื้อของถวายเอง และตนมักจะถวายน้ำผึ้งให้ เพราะหลวงปู่ชอบกิน และบอกว่ากินเพราะดีต่อสุขภาพ ส่วนตัวเลยกินตามหลวงปู่ชอบกินน้ำมะพร้าวเช่นกัน อีกทั้งหลวงปู่ยังไม่เคยรับเงินบริจาคเองกับมือ แต่จะให้หยอดเงินใส่ตู้ ซึ่งจำนวนนี้จะนำไปทำนุบำรุงสถานที่ และสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่น พญานาค และทำกระเบื้อง ก่ออิฐในวัด

นอกจากนี้หลวงปู่ไม่เคยพูดว่า มีอภินิหาร แต่คนที่บอกว่านั้นกล่าวอ้างไม่เคยบอกว่าเหยียบน้ำได้ มีแต่เดินไม่ใส่รองเท้า และตนยืนยันว่า หลวงปู่ไม่เคยพูดเรื่องการตั้งศาสนาใหม่ แต่คนที่ใส่ร้ายพูดไปเอง โดยหลวงปู่แสดงธรรมอย่างเดียว และสอนทุกคนอีกว่าเกิดมาเป็นมนุษย์ต้องสร้างบุญบารมี และวางตัวเป็นกลาง อย่าละเมิด เพราะมนุษย์หลงผิดไปมากทั้งนี้ตนเป็นหนึ่งในผู้ที่เคยดื่มน้ำล้างเท้าของหลวงปู่ โดยตนดื่มเพราะตนมีเคราะห์ เลยดื่มเพื่อปัดเป่า และตอนนั้นตนมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งหลังจากที่ดื่มเสร็จตนรู้สึกเบาตัว และเริ่มหายปวด

เมื่อปี 2561 วันที่มีการขับไล่หลวงปู่ออกจากสถานที่ ตนเป็นหนึ่งในคนที่เข้าไปเถียงแทนหลวงปู่ เพราะหลวงปู่สอนเสมอว่า “ใครด่า อย่าไปเถียง อย่าไปตอบ ให้เดินหนี” สาเหตุที่ไล่หลวงปู่น่าจะเกิดจากการขัดผลประโยชน์ เพราะคนนิยมมาทำบุญกับหลวงปู่ และไม่ยอมไปทำบุญที่วัดประจำหมู่บ้าน ส่วนเรื่องข่มขืนตนคิดว่าไม่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ บ้านของตนอยู่ติดกับบ้านของผู้เสียหาย โดยนางสาวน้ำส้มปั่น ผู้เสียหายเคยมีสามีมาก่อน แต่สามีทิ้งเลยหนีไปบวช และให้หลวงปู่บวชให้ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่สึกแล้ว และสึกเพราะมีองค์อยู่ในตัว แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นองค์อะไร

นอกจากนี้ ตนยังเคยไปที่สถานที่ปฏิบัติธรรมหินเพิง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งล่าสุดตนไปช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งวันนั้นมีการบวงสรวง ตนเลยไปช่วยทำบายศรีจากข่าวที่ออกมาตนมองว่าถ้าใครอยากจะรับกรรมหรือใส่ร้ายก็ทำต่อไป เพราะตนยังคงศรัทธาหลวงปู่อยู่ และตนไม่เชื่อเรื่องข่มขืน เพราะตนไม่เคยเห็นกับตา

ทีมข่าวจึงได้ติดต่อไปสอบถามข้อมูลและความคิดเห็นของแพทย์ นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจเฟซบุ๊กคุณหมอสตอรี่ ให้ข้อมูลว่า การดื่มน้ำล้างเท้าแล้วหายจากโรคถือเป็นอุปทานหมู่ของชาวบ้านที่เชื่อในตัวหลวงปู่พุทธะ เชื่อว่าจะหายป่วยตั้งแต่ยังไม่ดื่มน้ำล้างเท้า เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว จึงคิดว่าตัวเองหายป่วย หายปวด แล้วเชื่อต่อ ๆกันในกลุ่มของตัวเอง คล้ายกับการใช้ยาปลอมหรือยาแป้งหรือวิตามินของแพทย์ ที่เมื่อผู้ป่วยกินแล้วคิดว่าตัวเองหายป่วย เรียกปรากฎการณ์นึ้ว่า “Placebo Effect”

Placebo คือการรักษาแบบปลอม เช่น การให้ยาปลอมที่ไม่ได้มีฤทธิ์ในการรักษาโรคนั้นได้ อาจจะเป็นเม็ดแป้งหรือวิตามิน โดยที่ผู้ป่วยเชื่อว่าตนกำลังได้รับการรักษาด้วยยาจริง ๆและผลที่ออกมาคือมันสามารถทำให้ผู้ป่วยหายป่วยได้จริง

หลวงปู่องค์ดำล่องหน! ลูกศิษย์เผยคำพูดก่อนหายตัว ยังศรัทธาล้น ตบเท้าพร้อมรับศาสนาใหม่

‘พระมหาไพรวัลย์’ ตอกกลับชาวเน็ตเตือนสติอย่าไปสนิทกับ ‘หมอปลา’ มาก