เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดยังคงพุ่ง ติดต่อกันวันละเกือบพันคน ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และอาจพุ่งต่อไปนายแพทย์ผู้ เชี่ยวชาญเตือนว่าอย่าเพิ่งแตกตื่น ต้องติดตามดูกันต่อไปอีก ประมาณ 5–6 วัน

ถ้ายังไม่ลดถือว่าผิดปกติ แต่ประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่มั่นใจในความสามารถของรัฐบาลในการป้องกันการระบาด เพราะการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า

หลังการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ที่มีสถานบันเทิงไฮโซกลาง กทม. เป็นศูนย์กลางการแพร่กระจาย ไปทั่วประเทศ นายกรัฐมนตรีไม่เชื่อว่ารัฐบาลจัดหาวัคซีนฉีดช้า ตามที่มีเสียงวิจารณ์ แต่นายกรัฐมนตรีกลับแต่งตั้งคณะทำงาน ในการจัดหาวัคซีนชุดใหม่ ประกอบด้วยอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข และข้าราชการ สธ.ระดับสูง

โดยไม่มีรัฐมนตรีสาธารณสุข หรือนักการเมืองใดๆ ร่วมเป็นคณะทำงาน ซึ่งขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี แสดงว่าหัวหน้ารัฐบาลยอมรับว่ามีปัญหาจริง โดยเฉพาะการจัดหาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่ต้น จนกลายเป็นวัคซีนการเมือง มีการปิดปากนักการเมืองที่ออกมาถามถึงความโปร่งใสด้วยมาตรา 112

หลังจากที่ประเทศไทยได้วัคซีน จากประเทศจีนที่เรียกว่าซิโนแวค และเริ่มฉีดให้คณะรัฐมนตรี และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อสร้างความมั่นใจในหมู่ประชาชน วัคซีนกลายเป็นการเมืองอีกครั้ง เมื่อ ส.ส.บางคนโวยวาย กล่าวหาว่าทำไมจึงฉีดวัคซีนให้ ส.ว.ก่อน ส.ส. เปิดโปงให้โลกรู้ว่านักการเมืองฉีดวัคซีนก่อนชาวบ้าน

นำไปสู่เสียงวิจารณ์ นักการเมืองกลายเป็นอภิสิทธิ์ชน แม้แต่ในประเทศที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องทำตามวิธีการจัดอันดับความสำคัญก่อนหลัง ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาด ที่ทั่วโลกเขาฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน ตามด้วยกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้เป็นโรคเรื้อรัง แต่นักการเมืองไทยอาจมีปัญหาจะฉีดให้ฝ่ายใดก่อน

หวังว่าคงจะไม่ถึงกับต้องเสนอญัตติด่วน เปิดอภิปรายในสภาเพื่อลงมติจะฉีดวัคซีนให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก่อน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ที่เคยรับผิดชอบการจัดหาวัคซีนแสดงความเห็นว่า เหตุที่วัคซีนกลายเป็นการเมือง เพราะคนที่ไม่รู้เรื่องวัคซีนเอาข่าวต่างประเทศมาโจมตี

ในยุคที่เรียกกันว่า โลกาภิวัตน์ ประเทศส่วนใหญ่ในโลกเป็นประชาธิปไตย มีเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร ข้อมูล และการแสดงความคิดเห็นไม่มีรัฐบาลใดจะปิดกั้นได้ สื่อต่างประเทศเสนอข่าวและความเห็นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสียงวิจารณ์ วัคซีนต่างๆตามข้อเท็จจริง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง