จากกรณีที่ นาย สุทิน โตเรือง 74 ปี ชาว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ถูกรถชนขณะปั่นจักรยาน นอนเสียชีวิตที่ป่าข้างถนนสาย อ.เมืองชัยนาท-อ.วัดสิงห์ บริเวณ ม.1 ต.หาดท่าเสา.อ.เมืองชัยนาท โดยในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนของคู่กรณี เป็นกระจกมองข้าง และเศษชิ้นส่วนไฟหน้า คล้ายกับรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 12 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมานั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุบัติเหตุรถชนตูดกัน 7 คันติด ทำเอาการจราจรอัมพาต รถติดหนักเลยทีเดียว
แบบนี้ก็ได้เหรอ! กลัวความผิดชนแล้วหนี หนุ่มดับสลดข้างถนน ผ่านไปครึ่งวันถึงมีคนพบศพ
เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 11 เม.ย. 2564 ร.ต.อ.พิศิษฐ์ บุญมี รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งอุบัติเหตุผู้ขับขี่รถจักรยานถูกชน มีผู้เสียชีวิต ที่ถนนสาย อ.เมืองชัยนาท-อ.วัดสิงห์ บริเวณ ม.1 ต.หาดท่าเสา.อ.เมืองจ.ชัยนาท รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาทและแพทย์เวร รพ.ชัยนาทนเรนทร
ที่เกิดเหตุพบศพนายสุทิน โตเรือง 74 ปี ชาว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท นอนเสียชีวิตที่ป่าข้างถนน สภาพศพ มีแผลแตกที่ศีรษะ และแผลถลอกตามร่างกาย จากการชันสูตรพลิกศพ คาดว่าศีรษะได้รับแรงกระแทกอย่างแรงจนกะโหลกแตก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชม. นำศพไฟฝาก รพ.เพื่อรอญาติมารับศพ ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ตรวจสอบบนถนน พบรถจักรยานพับได้ สีเทา สภาพพังยับ ล้อหน้าและหลัง บิดเป็นเลข 8 มีร่องรอยการถูกชนเป็นรอยบนถนน ทั้งยังพบกระจกมองข้าง เศษกรอบไฟหน้ารถตกอยู่ เจ้าหน้าที่นำมาประกอบ และพบจุดสังเกต ว่าคล้ายกับ รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน พอนำไปเทียบพบว่าเป็นรุ่นเดียวกันจริงๆ จึงนำไปเป็นข้อมูล ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายน่าจะปั่นจักรยานมาทำธุรกรรมทางการเงินในตัวเมือง เพราะค้นแล้วไม่เจอเงินสด เอามาแค่บัตรATM และบัตรสวัสดิการรัฐ และระยะทางบ้านกับที่เกิดเหตุนั้นไกลกันมาก ถ้าไม่มีธุระจริงๆ คงไม่ปั่นมาไกลขนาดนี้ คาดว่ารถที่ชนนั้น น่าจะเมาจากการสังสรรค์ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับช่วงเวลาใกล้เช้านั้นมองทางไม่ชัดเจน ไฟส่องสว่างก็ไม่มี จึงเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ล่าสุดเวลา 10.00 น. วันที่ 12 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง วัดหนองบัว ต.เที่ยงแท้ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ที่ศาลาวัด มีญาติของผู้ตาย ทยอยเดินทางมากราบไหว้ และแสดงความเสียใจ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นาง สาววรรณา เอี่ยมจุ้ย 44 ปี ลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย เปิดเผยว่า พ่อจะปั่นจักรยานมาหาญาติ ที่ ต.เที่ยงแท้ อ.สรรคบุรี ระยะทางที่ปั่นมา ประมาณ 40 กิโลเมตร แต่พ่อออกมาตอนไหนไม่มีใครรู้ เพราะพ่อเคยปั่นระยะทางไกลแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเมื่อคืน คู่กรณีได้เดินทางมากราบศพของพ่อแล้ว พร้อมบอกว่าช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ ตี 2 ขับรถออกมารับของสดเพื่อนำไปขาย ไม่ได้ไปฉลองหรือกินดื่มมาแต่อย่างใด ตอนชนไม่รู้ว่าชนอะไร ไม่คิดว่าเป็นคนจึงไม่ได้ลงมาดู พอมาเห็นในข่าว จึงรีบเดินทางมาขอขมาศพทันที พร้อมบอกว่าจะชดใช้ทุกกรณี
ลูกสาวของผู้ตายยังบอกอีกว่า ส่วนตัวแล้วนั้นติดใจอยู่อย่างเดียว คือ ทำไมไม่ยอมมาลงช่วย ถ้าลงมาช่วย พ่ออาจจะมีโอกาสรอดชีวิตก็เป็นได้ สำหรับเรื่องคดีความก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป