คืนวานนี้ 23 มี.ค. 2564 ได้มีประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ระยะที่ 3 และมาตรการทัวร์เที่ยวไทยเพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องช่วงสงกรานต์ไปจนถึงครึ่งปีหลัง เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” (สศช.) ได้แถลงถึงรายละเอียดของโครงการ รวมถึงเปิดเงื่อนไขของโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ดังนี้
1. “ทัวร์เที่ยวไทย” รัฐช่วยจ่ายไม่เกิน 5,000 บาท
2. ต้องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์
4. บริษัททัวร์ 1 แห่ง รับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 3,000 ราย
5. ระยะเวลาโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” 4 เดือน
6. ซื้อโปรแกรม “ทัวร์เที่ยวไทย” ต้องจ่ายผ่านแอพฯ “เป๋าตัง”
7. ป้องกันการทุจริตด้วยการ “สแกนใบหน้า” ผู้ใช้งาน
สำหรับโครงการทัวร์เที่ยวไทยได้เป็นการปรับปรุงจากโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋าโดยขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมระดับอายุมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่ได้จำกัดแค่เพียงกลุ่มสูงวัยเท่านั้น โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- “ทัวร์เที่ยวไทย” รัฐช่วยจ่ายไม่เกิน 5,000 บาท โดยเป็นลักษณะแบบCo-Payment รัฐช่วยสนับ สนุนค่าเดินทาง ในลักษณะร่วมจ่าย 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน รัฐกำหนดสิทธิให้ประชาชนจำนวน 1 ล้านสิทธิ
- ต้องเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเลือกซื้อบริการนำเที่ยว ในราคาไม่เกิน12,500 บาทต่อโปรแกรม
- บริษัททัวร์จะต้องสมัครเข้าร่วมโครงการทัวร์เที่ยวไทย กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จากนั้นให้จัดทำโปรแกรมนำเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน จะขายขั้นต่ำราคาเท่าไหร่ก็ได้ แต่สูงสุดต้องไม่เกิน 12,500 บาทต่อโปรแกรม โดยในโปรแกรมนั้นๆ จะต้องระบุชื่อโรงแรม ชื่อร้านอาหารที่อยู่ในโปรแกรมให้ชัดเจน
- บริษัททัวร์ 1 แห่ง รับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 1,000 ราย ต่อ 1 บริษัท
- ระยะเวลาโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” 4 เดือนเริ่มเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2564 รวมทั้งสิ้นระยะเวลา 4 เดือน เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวช่วงกลางปี 2564
- ซื้อโปรแกรม “ทัวร์เที่ยวไทย” ต้องจ่ายผ่านแอพฯ “เป๋าตัง“
- ป้องกันการทุจริตด้วยการ กำหนดให้มีการ “สแกนคิวอาร์โค้ด” และ “สแกนใบหน้า” ของนักท่องเที่ยว ระหว่างทัวร์ หรือเดินทางไปยังโรงแรม และร้านอาหารต่างๆ ที่อยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยวนั้นๆ ด้วย