เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 11 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่มีชื่อว่า ฅนข่าว ต้นปราการ ได้โพสต์เรื่องราวระบุว่า “วงจรปิดในสนามบินแฉไฮโซหนุ่มจอดรถสปอร์ตหรูที่จอดรถคนพิการ บนอาคารจอดรถยนต์โซน 3 ชั้น 3 สนามบินสุวรรณภูมิ และเดินอย่างสบายใจ ทั้งที่มีป้ายบอกอย่างชัดเจน และ รปภ.ที่ดูแลพื้นที่ได้แจ้งแล้วว่าจอดที่คนพิการไม่ได้ ให้ไปจอดที่จอดปกติ แต่ไฮโซหนุ่มไม่สนใจ เดินจากไปอย่างไร้จิตสำนึก

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในสนามบินว่า ที่อาคารจอดรถโซน 3 ชั้น 3 สนามบินสุวรรณภูมิ มีรถสปอร์ตหรู มัสแตง สีเหลืองออกส้ม จอดอยู่ในที่จอดรถคนพิการ โดยจอดมาแล้ว 2 วัน ทางเจ้าหน้าที่ ดูแลพื้นที่จึงนำเหล็กกั้นและเครื่องล็อกล้อมาล็อกล้อไส้และนำหนังสือมาแปะอยู่หน้ากระจกว่าได้ละเมิดจอดรถในที่จอดรถคนพิการ ให้ติดต่อทางเจ้าหน้าที่ก่อนนำรถออกไป

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่ทราบว่ารถคันดังกล่าวได้นำมาจอดไว้ 2 วันแล้ว โดยก่อนจอดทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งแล้วว่าห้ามจอดเพราะเป็นที่จอดรถคนพิการให้นำไปจอดในที่จอดรถยนต์ทั่วไปแต่เจ้าของรถแสดงเจตนาว่าจะจอดตรงนั้นและไม่สนใจเดินจากไป

ขณะที่แหล่งข่าวในสนามบินยังเปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมามักมีรถหรูในลักษณะนี้หลายคันฝ่าฝืนและจอดในที่จอดรถคนพิการ โดยไม่สนใจอะไร ซึ่งที่ผ่านมาทางสนามบินสุวรรณภูมิเคยได้รับการร้องเรียนเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ทำได้แค่โทษปรับเพียงไม่เท่าไหร่ ซึ่งก็ถือว่าไม่สะทกสะท้านกระเป๋าสำหรับคนมีเงิน แต่มีนิสัยมักง่ายเช่นนี้ จึงตัดสินใจนำเรื่องราวครั้งนี้ออกมาสู่สังคม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก อาทิ พิการทั้งร่างกายและใจความรู้ไม่ช่วยไห้ระดับสมองเจริญขึ้นเลย, มีเงินขนาดนั้น ซื้อเครื่องบินส่วนตัวเลย จะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่น มีแต่เงินแต่ขาดสมอง, ก็รวยอะ พอเป็นข่าว ก็จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอโทษสังคม ก็จบ, สมองคนพวกนี้จะพิการครับ เเยกเเยะผิดชอบชั่วดีไม่ค่อยออก ผลกระทบจากความรวย, โชว์หน้าเลยครับ พลังโซเชียลสร้างชาติ ขจัดคนพาลออกจากแผ่นดิน..