เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แก๊งยาเหิมจัด เปิดฉากยิงถล่มรถตำรวจทางหลวง หลังเรียกให้จอดกลับเร่งเครื่องหนี ไล่ล่าข้ามจังหวัด ตำรวจ 4 นายรอดหวุดหวิด แต่รถพรุน

วันที่ 5 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุดรธานี เข้าตรวจสอบรถสายตรวจตำรวจทางหลวง หมายเลขทะเบียน ชล 4540 กรุงเทพมหานคร หมายเลขข้างรถ 4309 ซึ่งเป็นรถสายตรวจตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.4 บก.ทล. (อุดรธานี) หลังจากกลางดึกที่ผ่านมา ถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม ขณะเจ้าหน้าที่โบกรถนิสสัน นาวาร่า สีดำ 4 ประตู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนให้จอด แล้วไม่ยอมจอด เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ล่าจาก อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เข้ามายังตัวเมืองอุดรธานี คาดจะเป็นแก๊งยาเสพติด หลังจากยิงสกัดรถตำรวจทางหลวง 2 ชุด รวม 7 นัด ทำให้รถเครื่องดับ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้

โดยสภาพรถสายตรวจถูกยิงด้วยอาวุธปืนยังไม่ทราบชนิดและขนาด จำนวน 7 นัด บริเวณกระโปรงด้านหน้ารถและด้านข้างของรถ โชคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่นั่งมาด้วยกัน 4 นาย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือถูกยิง พร้อมกับโชว์พระพุทธอังคีรส รุ่นครบรอบทางหลวง 60 ปี ให้ผู้สื่อข่าวดู หลังรอดจากคมกระสุนของแก๊งยาเสพติดกลุ่มนี้

พ.ต.ท.ศิวกริช ดิษย์บุญรัตน์ สารวัตรทางหลวงอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงอุดรธานี จำนวน 4 นาย ซึ่งประกอบไปด้วย ร.ต.อ.กนกพล ดวงทาทอน, ด.ต.วินัย แก้วกอง, ส.ต.อ.วัชรินทร์ ดีเบา และ ส.ต.ท.ธนวัฒน์ ป้อมประกาย ได้ออกตรวจเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดบริเวณถนนหลวงสาย อ.ท่าบ่อ-หนองคาย พบรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีพิรุธด้านหลังมีถุงสีดำเต็มกระบะ

จึงเรียกให้จอด แต่ปรากฎว่าคนขับไม่จอดเร่งแซงหนีเข้ามาถนนมิตรภาพหมายเลข 2 เข้าตัวจังหวัดอุดรธานี พอมาถึงแยกหนองสองห้อง คนร้ายได้เปิดฉากยิงกระสุนใส่รถตำรวจไม่ยั้ง ถูกด้านหน้ารถ 2 นัด เจ้าหน้าที่ไม่ลดความพยายามขับไล่ล่าคนร้ายต่อ และวิทยุแจ้งให้ตำรวจอุดรฯ สกัดจับ พอมาถึงบ้านนาข่า ต.นาข่าก่อนถึงตัวเมืองอุดรธานี 10 กม.คนร้ายก็เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่อีกครั้ง จนทำให้รถพรุนไปทั้งคัน

จนทำให้รถสายตรวจตรทางหลวงเกิดเครื่องยนต์ดับ ทำให้คนร้ายหลบหนีไปได้ โดยคาดว่าแก็งยาเสพติดที่เหิมยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกำลังลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่เข้ามาภายในประเทศ จึงเปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ซึ่งจะได้เช็คกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด