เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คุมตัว 2 มือโหด ภรรยาและหลานชาย ทำแผนจุดทิ้งชิ้นส่วนร่างกาย ในพื้นที่อยุธยา พร้อมเปิดเผยถึงสาเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นเพราะถูกกระทำมาตลอด 20 ปีที่อยู่ด้วยกัน

บ่ายวันนี้( 3 มี.ค.) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอบ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพน์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย รอบ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง รอง ผบก.สส.ภ 1 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.จว.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับแถลงข่าวจับกุมตัว น.ส.วาสนา(หรือจอย) เข็มขาว อายุ 43 ปี และนายอนันตชัย ถิ่นชัยโย อายุ 24 ปี โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปิดบังการเสียชีวิต

 


เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจาก จ.นนทบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และ จ.สมุทรปราการ ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 18 ซอยกาหลง 5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดเหตุแทงนายสุบิน เกตุหิรัญ อายุ 53 ปี เสียชีวิต จากนั้นหั่นศพนำไปทิ้งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยที่เกิดเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ด้านหน้าประตูหน้าต่างเป็นกระจกติดฟิล์มดำ ที่ด้านหน้าประตูตำรวจพิสูจน์หลักฐานใช้ไฟบลูสตาร์ตรวจหาพบคราบเลือดจำนวน 7 จุด และพบคราบเลือดจำนวนมากในห้องน้ำ พบอุปกรณ์ทำความสะอาด ผงซักฟอก ไม้ถูพื้น 2 อัน

จากนั้นทำการจำลองเหตุการณ์ขนถุงดำบรรจุชิ้นส่วนศพ ใส่รถกระบะก่อนน้ำไปทิ้งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากนี้จะทำแผนในส่วนที่ จ.นนทบุรี อีกจำนวน 2 จุด คือร้านสะดวกซื้อ และปั้มน้ำมัน ปตท.ถนนราชพฤกษ์ จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในบริเวณจุดที่ทิ้งแขนขาบริเวณริมถนนสาย 347 หมู่ 9 ต.บางประแดง อ.บางปะอิน และเดินทางต่อไปทำแผนบริเวณจุดที่ทิ้งศีรษะบริเวณริมถนน 356 บริเวณหมู่7 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรี อยุธยา แล้วมุ่งหน้าไปทำงานแผนต่อจุดที่ทิ้งลำตัว บริเวณถนนซอยโรงอิฐบล็อค หมู่4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา


ด้าน พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่าสาเหตุเกิดจากการที่นางสาววาสนา และนายสุบิน ทะเลาะกันมาตลอดที่เป็นสามีภรรยา กว่า 20 ปี และทำร้ายร่างกายประจำ จนหมดความอดทน จนกระทั้งวันที่ 28 ก.พ.ช่วงเวลา 17.00 น.นายสุบิน ผู้เสียชีวิตได้ขับรถมาที่บ้านและดื่มสุราเหล้าขาว มีอาการมึนเมาและได้ทะเลาะวิวาทกับนางวาสนา เป็นภรรยา

ต่อมาช่วงเวลา 22.00 น. นายสุบิน ผู้เสียชีวิต เลิกดื่มสุราและเข้าไปหาภรรยาคือนางวาสนา เข็มขาว แล้วมีปากเสียทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งขณะนั้นมีนายอนันต์ชัย หรือเมฆ ถิ่นชัยโย หลานชาย อยู่ในเหตุการณ์

จากนั้นช่วงเวลา 23.00 น. นางสาว วาสนา และนายอนันต์ชัยได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุใช้มีดแทงที่ราวนมซ้ายของนายสุบิน จนเสียชีวิต และทั้งสองได้นั่งอยู่ข้างศพผู้เสียชีวิตประมาณครึ่งชั่วโมง จึงตัดสินใจหั่นแยกชิ้นส่วนศพของผู้เสียชีวิตต่อมาผู้ก่อเหตุจึงได้ไปซื้อถุงดำที่ร้านสะดวกซื้อ และร่วมกับนายอนันต์ชัย หั่นแยกชิ้นส่วนเป็น 3 ถุง คือ มือ แขน ขาจำนวน 1 ถุง ศีรษะจำนวน 1 ถุงและส่วนลำตัวใช้ป้ายไวนิลมาคุมร่าง โดยใช้เชือกมัด จำนวน 1 ถุง

เวลาประมาณ 02.00 น ได้นำศพ และชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตออกไปทิ้งโดยใช้รถยนต์ Isuzu สีขาว ณท 62 74 กทม.และได้แวะซื้อน้ำมันดีเซลที่ ปั๊ม ปตท.ราชพฤกษ์ โดยใช้ถังแกลลอนสีเหลืองเป็นจำนวนเงิน 140 บาท จากนั้นขับมุ่งหน้าไปยัง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นเวลาประมาณ 8.00 น. นายอนันต์ชัย ได้ออกไปทำงานและนำมีดเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุโดนทิ้ง ถนนปราบมือเขตศรีนครินทร์ จนกระทั่งมีคนมาพบศพโดยเมื่อเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาทำแผน ซึ่งได้ทำการทิ้งถุงดำซึ่งเป็นชิ้นส่วนแขนขาว บริเวณถนนสาย 347 จุดที่ 1 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนน 356 เพื่อทิ้ง ส่วนหัวในบริเวณจุดที่ 2 ริมถนนสาย 356 บริเวณหมู่ 7 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน ต่อมานายอนันตชัย ได้ขับรถมุ่งหน้าสายเอเชียไปทาง จ.สระบุรี และเลี้ยวไปหลังวัดชูจิตในจุดที่ 3 ถนนซอยโรงอิฐบล็อค หมู่4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย เพื่อทิ้งชิ้นส่วนลำตัวเป็นลำดับสุดท้าย และผู้ก่อเหตุทั้งสองได้ขับรถกลับบ้าน

 

ทั้งนี้หลังจากทำแผน น.ส.วาสนา กล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ตนเองถูกรังแกมาตลอด 20 ปี เขาเป็นคนโมโหร้ายมาก และเคยตัวที่จะต้องทำร้ายร่างกายตนเองตลอดเวลา รุนแรงมาตลอดและตนเองก็สู้เขาไม่ได้ เรื่องเล็กน้อย เขาก็ลงมือทำร้ายหนักสุดเคยโดนเอากาน้ำฟาดหัวจนแตก 10 กว่าเข็ม วันนั้นคือวันที่แบบสุดๆแล้วจริงๆ ไม่ได้อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แค่ให้เขาออกจากบ้าน ไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้รู้จักพื้นที่มาก่อน

ด้านนายอนันต์ชัย หลานชาย เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า ไม่ได้ตั้งใจจะเอาไปแทง แค่เอาไปขู่เฉยๆ นึกว่าเขาจะกลัวแต่เขาไม่กลัว เขาบุกเข้ามาจำมาทำร้ายตนเองกับน้า บอกให้ถอย แต่ก็ไม่ถอย และเข้ามาต่อย ตนเองเลยโมโหเลยแทงสวนกลับเข้าไปทีนึงจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเตรียมฝากขังดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป