เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. สาระสำคัญ เห็นชอบต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 31 มี.ค. 64 ไม่เกี่ยวปมอายุราชการทวีคูณ 

วันที่ 23 ก.พ. อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. โดยระบุว่า จากกรณีมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการนำสิทธิ์ในโครงการ “เราชนะ” ซึ่งเริ่มให้ใช้สิทธิ์ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา หรือมาตรการอื่นๆ ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดนั้น ขอเตือนว่า ประชาชนที่ขายสิทธิ์โครงการเราชนะ มีความผิด ขอให้หลีกเลี่ยง และอย่าหลงเชื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด ทั้งที่ไม่มีการซื้อขายถูกต้อง

และผู้ที่เข้าร่วมโครงการในส่วนของร้านค้า ที่ฉวยโอกาสปรับราคา ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ออกตรวจสอบทุกพื้นที่ และให้ร้านค้าติดป้ายแสดงราคา และไม่ขายของแพงเกินที่กำหนด หากพบจะถูกดำเนินคดี

สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นอกเหนือจากธนาคารกรุงไทยแล้ว ยังสามารถไปลงทะเบียนได้ที่ ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด สรรพากร และสรรพสามิต ทุกพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยที่ตั้งจุดเพิ่มเติมด้วย ซึ่งในกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษนี้ มีผู้ที่มาลงทะเบียนแล้ว 6.5 แสนคน

นอกจากนี้ เกี่ยวกับวาระการประชม ครม. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-31 มี.ค.นี้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับอายุราชการทวีคูณ ตามที่ฝ่ายค้านมีการหยิบยกขึ้นไปอภิปราย ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงที่ผ่านมา