เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา รวม 6 ราย โดยหนึ่งในนั้นมี นายปุรพล วงศ์เจียก อายุ 19 ปี อาสาสมัครทีมเเพทย์ DNA ที่มีภาพถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนทำร้ายร่างกายขณะเข้าจับกุมจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เดินทางมารับสิ่งของที่ถูกยึดไว้กลับ พร้อมชี้แจงผ่านสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายปุรพล กล่าวว่า หลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุมพวกตนกำลังช่วยเหลือคนเจ็บที่ถูกมีดบาด แล้วอยู่ๆตำรวจ คฝ.ประกาศให้ยุติการชุมนุมภายใน 30 นาที แต่พวกตนต้องตรวจเช็กสิ่งของและเก็บอุปกรณ์ซึ่งผ่านไปเพียง 10 นาที ตำรวจ คฝ.ก็เข้ามา พวกตนจึงรีบออกจากพื้นที่ทันที

นายปุรพล กล่าวอีกว่า โดยมีรุ่นพี่ขี่จักรยานยนต์ออกมา ส่วนพวกตนอยู่บนรถกระบะ แต่รถจักรยานยนต์รุ่นพี่ดับ จึงจอดแล้วลงไปช่วยกัน ระหว่างนั้นตำรวจ คฝ.วิ่งตรงเข้าหาตนแล้วบอกว่าให้ใจเย็นๆ ระวัง คฝ.ชุดหลังจะเข้ามาทำร้าย และให้ตนคร่อมรถจักรยานยนต์รอไว้แต่ไม่ทัน ตำรวจ คฝ.ชุดหลังวิ่งเข้ามาถึงตัวก่อน จากนั้นตนถูกตีจนสลบไปชั่วขณะ เจ้าหน้าที่ถึงตรวจค้นตัวแล้วยึดกรรไกรตัดผ้าที่ใช้ทางการแพทย์ซึ่งมีปลายกลมที่พกไว้ไป ยืนยันว่าไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนและเป็นแพทย์อาสาจริง ไม่ใช่ผู้ชุมนุมแฝงตัวเข้ามา ส่วนเรื่องแจ้งความกลับต้องรอปรึกษาทนายความก่อน

หน่วยแพทย์อาสา“DNA หน่วยบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร” ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่2 เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องสัญลักษณ์ว่าสาเหตุที่ทางทีมไม่ได้ขออนุญาตใช้เครื่องหมายกาชาดเนื่องจากทีมเกิดจากการวมตัวของแพทย์พยาบาลสหวิชาชีพต่างๆและอาสาสมัครทางการแพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อให้การบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ชุมนุมณขณะนั้น

พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ต.ค.63 ซึ่งหากทีมทำการขออนุญาตใช้เครื่องหมายกาชาด อาจใช้ระยะเวลานาน ไม่ทันต่อการลงพื้นที่ในครั้งถัดไป

นอกจากนี้ ยืนยันว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา “#ม็อบ13กุมภา” ทางทีมได้ดำเนินการตามแผนการแพทย์ที่ทีมได้วางแผนไว้อย่างเป็นระบบ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น อย่างที่ปรากฏออกมา

จึงเรียนมาเพื่อทราบและชี้แจง

ทีมบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร(DNA) ที่บริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์