เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ญี่ปุ่นเผชิญแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 สะเทือนไกลถึงกรุงโตเกียว นายกฯญี่ปุ่นเตือนเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก หวนนึกถึงภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

นายโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตือนเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.3 นอกชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิมะ ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ตามเวลาท้องถิ่น ขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ในที่พักอาศัย และได้จัดตั้งศูนย์รับมือภัยพิบัติในทันที โดยยังไม่มีการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ และไม่พบความผิดปกติของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่
เบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวราว 100 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการโดนเศษแก้วที่ตกแตกบาดเท้า และข้อเท้าแพลงจากการตกบันไดโดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งเมืองนามิเอะไป 74 กิโลเมตร และมีความลึกอยู่ที่ 55 กิโลเมตร โดยจังหวัดฟูกูชิมะ, เซนได และมิยางิ สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้รุนแรงที่สุด ส่วนประชาชนในกรุงโตเกียวรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเป็นเวลา 30 วินาที
ขณะเดียวกัน มีรายงานบ้านเรือนประชาชนราว 860,000 หลังคาเรือนในภูมิภาคคันโต และโทฮุกุ รวมไปถึงพื้นที่รอบนอกกรุงโตเกียว ต้องเผชิญกับไฟฟ้าดับ และเกิดดินถล่มในบางพื้นที่ ส่งผลให้มีการระงับการเดินรถไฟทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความเสียหาย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เชื่อว่าเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้เป็นอาฟเตอร์ช็อกจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หรือเมื่อปี 2554 ที่จังหวัดฟูกูชิมะ และเซนได ซึ่งเป็นภัยพิบัติธรรมชาติครั้งใหญ่ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ และเกิดเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ-ไดอิจิ ระเบิด ทำให้มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหล
เป็นเหตุให้ผู้คนกว่า 20,000 รายเสียเสียชีวิตหรือสูญหาย และอีกกว่า 100,000 รายต้องไร้ที่อยู่อาศัย ด้านทางการญี่ปุ่นได้ใช้เวลา 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 ปีแผนฟื้นฟูจึงจะเสร็จสิ้น