เกิดเหตุฆาตกรรมสุดอึ้งกับการก่อเหตุเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาเวลา 22.20 น. วันที่ 17 ม.ค.61 พ.ต.ต.อธิศ แสนเภา สารวัตรสอบสวนสภ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านพักในสวนยางพารา บ้านคำโคนสว่าง ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบบ้านหลังเล็กสร้างด้วยปูนชั้นเดียว ไม่มีประตู ส่วนคนตายชื่อนายภัทรพล แสนคำ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 7 บ้านคำโคนสว่าง ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.อุดมพร สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงวอร์มขายาวสีกรมท่า ถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่ท้ายทอยและกลางหลัง ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 3 ปลอก กระสุนลูกซอง 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รองผบก.ภ.จ.หนองคาย และพ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.หนองคาย ชุดสืบสวน สภ.เฝ้าไร่ ออกตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์คันหนึ่งเสียบกุญแจล้มตะแคงอยู่ริมถนน ห่างจากกระท่อมที่เกิดเหตุมาประมาณ 500 เมตร แต่ไม่พบเจ้าของ ต่อมาไม่นานเจ้าหน้าที่พบนายทวีศักดิ์ โพธิ์เลิง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 14 บ้านใหม่พัฒนา ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ เดินวนเวียนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุท่าทางมีพิรุธ ตามร่างกายมีบาดแผลจากอุบัติเหตุ จึงเข้าสอบถามและควบคุมตัวไว้
นายทวีศักดิ์ อยู่ในสภาพคล้ายคนเมา พูดจาวกวน ใบหน้ามีแผลถลอก สุดท้ายจึงยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายกับมือ แล้วนำปืนลูกซองไปทิ้งในป่า เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวนายทวีศักดิ์พาตระเวนหาปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุนานหลายชั่วโมงก็ยังไม่พบ
พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รองผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทวีศักดิ์ ได้ไปกินเหล้ากับเพื่อนที่บ้านดงหม้อทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ซึ่งห่างจากหมู่บ้านของผู้ตาย 6 กิโลเมตร หลังจากเพื่อนเมาแล้วเผลอหลับ นายทวีศักดิ์ ได้แอบขี่รถจักรยานยนต์ของเพื่อนและนำปืนลูกซองของพ่อเพื่อนซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาลงมือก่อเหตุยิงผู้ตาย สำหรับนายทวีศักดิ์ ผู้ต้องหามีประวัติต้องโทษคดีพกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ ถูกจำคุก 2 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานก็มาก่อเหตุอีก
ขณะที่นายทวีศักดิ์ ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้จักกับคนตาย รู้เพียงผิวเผินว่า เป็นกะเทย และเคยเห็นผู้ตายไปเต้นหน้าเวทีหมอลำละแวกบ้าน ตนเป็นคนไม่ชอบตุ๊ด เกลียดกะเทย หลังจากดื่มเหล้ากับเพื่อนได้ที่แล้ว เห็นเพื่อนเมาก็เลยเอาปืนของพ่อเพื่อน และขี่รถจักรยานยนต์เพื่อนมาตามถนนระหว่างบ้านคำโคนสว่าง–คำชิ ห่างจากกระท่อมของผู้ตายประมาณ 500 เมตร แต่ด้วยความเมาจึงเกิดอุบัติเหตุรถล้ม ตนจึงทิ้งรถแล้วถือปืนเดินมายังกระท่อม ซึ่งมีการก่อกองไฟข้างกระท่อม และจำได้ว่าเป็นกระท่อมของผู้ตาย เป็นจังหวะเดียวกับที่หมาเห่า แล้วตนได้ยินเสียงผู้ตายไล่หมา ก็เลยใช้ปืนยิงไป โดยที่ผู้ตายนอนหันหลัง แล้วตนก็เดินออกมา ซึ่งยอมรับว่าตนเป็นคนไม่ชอบกะเทย เห็นแล้วจะรู้สึกไม่ดี ก็เลยลงมือก่อเหตุ
ด้าน นายสมจิตร โพธิ์เลิง อายุ 74 ปี ตาของนายทวีศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลานชายของตนมีอาการทางจิตตั้งแต่เด็ก ชอบโกหก พูดจากลับกลอก เสพยาบ้า และติดสุรา พอขอเงินตนไม่ได้จะขู่ทำร้าย เคยเตือนแต่ก็ไม่ฟัง ส่วนผู้ตายตนไม่รู้จัก ไม่นึกว่าหลานชายจะก่อเรื่องขึ้น
ขณะที่นางอรุณี เทียมอาจ อายุ 51 ปี มารดาของผู้ตาย บอกว่า ลูกชายเป็นลูกคนที่ 3 จาก 4 คน ลูกเป็นกะเทย แต่เรียนดี นิสัยดี เป็นที่รักของเพื่อนและครูที่โรงเรียน เคยเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันทักษะทางวิชาการและเล่นกีฬาตัวแทนนักเรียนทุกปี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ไม่เคยมีศัตรู ทุกวันลูกชายจะนอนที่บ้าน แต่เมื่อคืนลูกชายขอมานอนเป็นเพื่อนตนกับน้องชายที่กระท่อมสวนยาง โดยกระท่อมจะกั้นปูนไว้ชั้นหนึ่ง ตนกับลูกคนเล็กนอนข้างใน ลูกชายนอนในมุ้งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้านนอก ไม่นานก็ได้ยินเสียงหมาเห่า ตนจึงบอกให้ลูกชายไล่หมา ลูกชายก็ทำเสียงไล่หมา จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนประทัด 3 ครั้งแต่ก็ไม่เอะใจ นึกว่าลูกชายจุดประทัดไล่หมา จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 20 นาที ตนเรียกลูกชายแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงลุกมาดูเห็นลูกเสียชีวิตนอนแน่นิ่งเลือดไหลเต็มพื้น ด้วยความตกใจรีบพาลูกกลับเข้าตัวหมู่บ้าน และแจ้งตำรวจดังกล่าว.
ที่มา – ไทยรัฐ